GRAND เผยไทย-ต่างชาติรุมจีบซื้อ ROH คาดสรุปดีล ก.ค.นี้ ราคาราว 6 พันลบ.

นายชายนิด อรวรรณญาณสกุล รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาขายหุ้น บมจ.โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) (ROH) ว่า ขณะนี้ได้มีการเจรจาอยู่ 4 ราย เป็นต่างชาติ 2 รายจากสิงคโปร์และฮ่องกง และไทย 2 ราย โดยเจรจาเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ 98.48% มูลค่าใกล้เคียง 6 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะขายออกไป 49% รวมทั้งผู้สนใจซื้อบางรายยังต้องการคงเชนบริหารของเชอราตันอยู่ แต่บางรายต้องการเปลี่ยนเชน ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะสรุปการเจรจาซื้อขายครั้งนี้ได้ในเดือน ก.ค.นี้

บริษัทคาดว่าจะนำเงินที่ขายหุ้น ROH ไปใช้คืนหนี้หุ้นกู้เป็นส่วนใหญ่ราว 80% ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมที่จ.ระยอง มูลค่าโครงการ 5 พันล้านบาท บนพื้นที่ 100 กว่าไร่ โดยในส่วนวิลล่าได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเตรียมจะก่อสร้างโรงแรมคาดว่าใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปีจึงจะแล้วเสร็จ

นายชายนิด คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปี 63 น่าจะฟื้นต้วได้ โดยบริษัทได้เปิดมขายคอนโดมิเนียม”ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ”มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับซูมิโตโม ฟอเรสทรี (ถือ 49%) กลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ ฮ่องกงและจีน โดยโครงการนี้ไม่ได้ชะลอการลงทุน เพราะทางซูมิโตโมฯ ต้องการเดินหน้าก่อสร้างโครงการต่อเนื่องให้แล้วเสร็จตามแผนในปลายปี 64

ส่วนธุรกิจโรงแรมของ GRAND ช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยอัตราเข้าพักลดลงมาที่ 20% แต่คาดว่าหลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เนื่องจากประเทศไทยมีการแพร่ระบาดน้อยมาก ทำให้นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศต้องการเข้ามาท่องเที่ยว โดยเฉพาะจีน และเชื่อว่าในภูมิภาคเอเชียจะมีการเที่ยวกันเองมากขึ้น ส่วนยุโรปน่าจะเปิดการท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในช่วงปลายปี 63

ทั้งนี้ บริษัทได้ออกแคมเปญ่ส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตร ในช่วงก.ค.-ธ.ค.63 คาดว่าจะช่วยทำให้อัตราเข้าพักขึ้นมา 60% โดยคาดว่าเฉลี่ยทั้งปีมีอัตราเข้าพักไม่เกิน 50% ซึ่งขณะนี้โรงแรมที่หัวหิน และปราณบุรี มีจองเข้ามามากแล้ว

ด้านนายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GRAND กล่าวเสริมว่า ต่างชาติที่เข้ามาเจรจาเป็นกองทุนสิงคโปร์ และกองทุนในประเทศที่ร่วมมาเจรจาซื้อหุ้น ROH หากสรุปการซื้อขายได้ในเดือน ก.ค.นี้ก็คาดว่าจะได้รับเงินในไตรมาส 4/63 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสด (cashflow) ดีขึ้น

ปัจจุบันกล่ม GRAND มีโรงแรมในเครือ 6 แห่ง ได้แก่ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท , โรงแรมเดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา และโรงแรมเชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า รวมทั้งโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง โดยรายได้จากธุรกิจโรงแรมคิดเป็น 40% ส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วน 60%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top