ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก ขานรับข้อมูลศก.สหรัฐ, เฟด-คลังสหรัฐให้คำมั่นหนุนศก.

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันพยุงเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19

  • ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,338.30 จุด เพิ่มขึ้น 50.16 จุด, +0.23%
  • ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,991.18 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด, +0.22%
  • ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,622.64 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด, +0.01%
  • ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,128.81 จุด เพิ่มขึ้น 20.48 จุด, +0.97%
  • ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,604.08 จุด เพิ่มขึ้น 14.17 จุด, +0.55%
  • ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,503.93 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด, +0.20%

ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสถาปนาเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 98.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 85.9 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 91.0 โดยได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐต่างๆ ในสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายพาวเวลและนายมนูชินได้ให้คำมั่นในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เฟดและกระทรวงการคลังจะเดินหน้าพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขครั้งนี้ไปให้ได้

ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวว่า กระทรวงการคลังและเฟดกำลังหาลู่ทางที่จะขยายโครงการเงินกู้ฉุกเฉิน 11 โครงการที่จัดตั้งขึ้นโดยเฟดให้สามารถเข้าถึงความต้องการของตลาดเป็นวงกว้าง ขณะที่นายพาวเวลกล่าวว่า เป้าหมายของโครงการเงินกู้ของเฟดนั้น คือการช่วยเหลือประชาชนราว 25 ล้านคนที่ตกงานในช่วงโควิด-19 ระบาด ให้สามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับภาคครัวเรือน บริษัทเอกชน รัฐบาลของรัฐต่างๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากความเสียหายในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 63)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top