เงินบาทเปิด 31.02 ต่อดอลล์ แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.02 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.95 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์เพื่อไปลงทุนในทองคำหลังจากเมื่อคืนนี้ราคาปรับตัวลดลงมามาก

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ขึ้นมายืนเหนือ 31.00 บาท/ดอลลาร์ น่าจะมาจากแรงซื้อดอลลาร์เพื่อไปลงทุนในทองคำหลังจากเมื่อคืนนี้ราคาทองคำปรับลดลงมากถึง 20 ดอลลลาร์/ออนซ์” นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 30.95-31.05 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (1 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.36542% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.45984%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 107.45 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.52 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1256 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1205 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.9540 บาท/ดอลลาร์
  • หอการค้าไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประจำเดือนมิถุนายน 2563
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยหลังออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีลูกหนี้รายย่อยได้รับความช่วยเหลือจำนวน 11.5 ล้านบัญชี จากบัญชีสินเชื่อรายย่อยทั้งหมดประมาณ 35 ล้านบัญชี ส่วนใหญ่เป็นบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คิดเป็นมูลหนี้รวม 3.8 ล้านล้านบาท ซึ่งลูกหนี้ส่วนใหญ่ได้รับความช่วยเหลือในลักษณะจ่ายเงินค่างวดที่ลดลง และบางส่วนได้รับการเลื่อนการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้
  • สมาคมแบงก์เล็งขยายมาตรการ “พักชำระหนี้” ออกไป หลังเริ่มทยอยสิ้นสุดลง หวังหน่วงเวลารอเศรษฐกิจฟื้น เพื่อให้ลูกหนี้กลับมาชำระหนี้ได้ ยอมรับแนวโน้มหนี้เสียเพิ่มแต่มั่นใจเงินกองทุน แบงก์ปึ๊ก
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และตัวแทนเอกชนจากภาคการท่องเที่ยว ว่าเตรียมนำแนวทางการจับคู่ประเทศเดินทางท่องเที่ยว (ทราเวลบับเบิล) หารือศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อให้ไทยสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้แบบเป็นกรุ๊ปขนาดเล็กก่อนในช่วงเดือนส.ค.นี้ โดยวันที่ 2 ก.ค.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะคุยกับทางกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุป โดยเฉพาะการเคาะชื่อประเทศล็อตแรกที่จะเข้ามาได้ จากนั้นจึงเสนอให้ทางที่ประชุม ศบค.เห็นชอบในอีก 2 สัปดาห์
  • ททท.คาดการณ์ เปิดลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เต็มจำนวน 5 ล้านสิทธิ์ภายในวันเดียว ชี้ให้เข้าไปชิงสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 06.00 น. วันที่ 15 ก.ค.นี้ “พิพัฒน์” หารือแนวทางทำทราเวล บับเบิล เริ่มเดือน ส.ค.นี้ เลือกประเทศที่ปลอดเชื้อโควิด-19 อย่างน้อย 30 วัน นำร่อง 7 พื้นที่ เชียงใหม่ เกาะสมุย กระบี่ ภูเก็ต พัทยา หากประสบความสำเร็จจะขยายพื้นที่ไปยังเชียงราย หาดใหญ่
  • ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 43.1 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5
  • ไอเอชเอส มาร์กิต รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.8 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 39.8 ในเดือนพ.ค.
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 9-10 มิ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดควรจะมีคำอธิบายที่ชัดเจนมากขึ้นให้กับตลาดการเงิน เกี่ยวกับแนวทางในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อให้ตลาดได้รับทราบข้อมูลมากขึ้นว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟดจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0% หรือต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเปิดเผยความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น ยูโร และเงินปอนด์ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.369 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกัน ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ค. โดยรายงานว่ามีการจ้างงานพุ่งขึ้น 3.065 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่า การจ้างงานลดลง 2.76 ล้านตำแหน่ง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • ราคาทองคำพุ่งแตะ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดรอบกว่า 8 ปี กูรูมั่นใจมีลุ้นทะลุไฮเดิมที่ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปีนี้ เหตุเศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอ ขณะที่กองทุนทองคำทั่วโลกแห่เข้าซื้อ จนถือครองรวม 3,510 ตัน เป็นสถิติสูงสุดใหม่
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราว่างงานเดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนพ.ค., ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 3 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 12.4%
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ระบุแม้การคาดการณ์อัตราการว่างงานที่ดีที่สุดของสหรัฐจะยังคงอยู่สูงกว่า 10% ในปลายปีนี้ และจะไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 เป็นเวลา 4-5 ปี และหากเผชิญผลกระทบที่ยาวนานจะส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจใช้เวลานานกว่านั้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top