น้ำมัน WTI ปิดลบเล็กน้อย หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และความหวังเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ช่วยสกัดแรงขายในตลาด และทำให้สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงไม่มากนัก

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2 เซนต์  หรือ 0.05% ปิดที่ 41.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 44.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนลบ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล 

รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 280,000 บาร์เรล

ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด เนื่องจากทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% สู่ระดับ 94.9851 เมื่อคืนนี้

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยนายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะจ่ายเงินจำนวน 1.95 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เพื่อให้มีการผลิตและส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดสให้แก่รัฐบาล หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในมนุษย์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 63)

Tags: ,
Back to Top