รัฐวิกตอเรียซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในออสเตรเลีย รายงานวันนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด และคาดว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมได้ในสัปดาห์หน้า
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในรัฐวิกตอเรีย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 11 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย และเสียชีวิต 5 ราย นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ส่วนเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา รัฐวิกตอเรียทำสถิติพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 700 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่พบโดยเฉลี่ยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาในกรุงเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย ลดลงต่ำกว่า 35 ราย ซึ่งการประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเมลเบิร์นนั้น สอดคล้องกับเป้าหมายที่ทางรัฐตั้งไว้ว่าจะต้องลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้ต่ำกว่า 50 รายภายในวันที่ 28 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ กรุงเมลเบิร์นอยู่ในช่วงการขยายมาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย. แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเมลเบิร์นได้ยกเลิกข้อบังคับบางข้อภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ โดยอนุญาตให้ประชาชนออกนอกบ้านเพื่อออกกำลังกายได้นานขึ้นและร่นระยะเวลาการประกาศเคอร์ฟิวช่วงกลางคืนให้สั้นลง
ทางด้านนายนิก โคทส์เวิร์ธ รองอธิบดีกรมการแพทย์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ออสเตรเลียน บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (ABC) ว่า “นับเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับประชาชนรัฐวิกตอเรียและชาวออสเตรเลียด้วย”
อย่างไรก็ดี แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่นายโคทส์เวิร์ธได้เตือนให้ประชาชนในรัฐปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัดต่อไป
สำหรับยอดรวมผู้ติดเชื้อของออสเตรเลียจนถึงขณะนี้อยู่ที่ระดับกว่า 26,900 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 851 ราย โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อมากที่สุดในออสเตรเลีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 63)
Tags: COVID-19, คลายล็อกดาวน์, นิก โคทส์เวิร์ธ, รัฐวิกตอเรีย, ออสเตรเลีย, โควิด-19