เงินบาทเปิด 31.62 ต่อดอลล์ อ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง

ให้กรอบเคลื่อนไหว 31.55-31.70

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.62 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.55 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19, มาตรการทางการคลังเพื่อแก้ผลกระทบจากโควิด-19 ของสหรัฐยังไม่คืบหน้า และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

“บาทอ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าจากปัจจัยเดิม”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหว 31.55-31.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (25 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.29728% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.34227%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 105.52 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 105.46 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1618 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1643 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5240 บาท/ดอลลาร์
  • ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานวันนี้ จะมีการพิจารณาแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV)
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเดือน ก.ย.ที่มีลักษณะแกว่งตัวลงหลุด 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์นั้น มองว่าระยะสั้นจะยังมีโอกาสปรับลดลงได้อีก โดยการปรับตัวลงของราคาทองในช่วงนี้ ปัจจัยหลักมาจากการที่นักลงทุนโยกเงินลงทุนเข้าสู่ดอลลาร์สหรัฐ
  • ผ่านฉลุย! มาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศวงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท “คลัง” ตั้งแท่นแจกเงินเบ็ดเสร็จ 24 ล้านคน เติมเงินเพิ่มในบัตรคนจนอีก 500 บาทต่อคน ช่วง 3 เดือน พร้อมแจก 3,000 บาท ให้ 10 ล้านคน ในโครงการคนละครึ่ง
  • ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า ยังคงมีโอกาสที่เธอและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุเตือนว่า ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังใกล้แตะระดับ 1 ล้านราย ก็มีความเป็นไปได้ที่จำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย หากประเทศต่างๆไม่ได้ร่วมมือกันสกัดการแพร่ระบาด
  • โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 สู่ระดับ 3% จากเดิมที่ระดับ 6% ขณะที่สภาคองเกรสยังคงไม่สามารถอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
  • นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 โดยส.ส.พรรคเดโมแครตได้เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือวงเงิน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ไม่มีแนวโน้มที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้
  • ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การดีเบตครั้งแรกของคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการเจรจาดีล BREXIT ระหว่างยุโรปและอังกฤษ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชนดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคลและ Core PCE Price Index เดือนส.ค. รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/63 (final)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top