เงินบาทเปิด 31.58 ต่อดอลล์ แข็งค่าหลังดอลล์อ่อน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.58 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.60 บาท/ดอลลาร์ หลังสภาคองเกรสเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังสภาคองเกรสผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนเปิดรับภาวะเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 31.50-31.65 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (1 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.27328% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.31247%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 105.53 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 105.59 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1735 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1736 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5880 บาท/ดอลลาร์
  • นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในยุค New Normal กับผู้บริหารระดับสูง (ซีอีโอ) จาก 16 บริษัทชั้นนำของไทยและต่างประเทศ ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง โดยเชิญชวนนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติลงทุนในไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลเตรียมความพร้อมทั้งด้านโลจิสติกส์ระบบรถไฟความเร็วสูงสาธารณูปโภค แหล่งน้ำเพื่อการบริโภคและอุตสาหกรรม รวมทั้งแรงงานฝีมือทั้งในและนอกระบบเพื่อรองรับการลงทุนของเอกชน
  • กรมการค้าต่างประเทศ เดินหน้าป้องกันสินค้าจากประเทศอื่นมาแอบอ้างเป็นสินค้าไทยแล้วส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า เพื่อใช้สิทธิ FTA, GSP หนีขึ้นภาษีเทรดวอร์ ลั่นจับมือเอกชนตรวจเข้มหวั่นถูกแบน
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ คาดสิ้นปีงบประมาณ 63 ยอดหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านล้านบาท หรือมากกว่า 50% ของจีดีพี สวนทางมูลค่าจีดีพีซึ่งจะต่ำกว่า 16 ล้านล้านบาท ขณะที่ยอดเก็บรายได้ 11 เดือนพลาดเป้า 12% ด้านปลัดคลังเตรียมถกหน่วยงานในสังกัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะ 6 เดือน
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ติดตามปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งยังคงมีความเปราะบางจากความกังวลใน 3 ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ การกลับมาระบาดของโควิด-19 รอบ 2 การสิ้นสุดมาตรการการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งล้วนมีผลต่อความเชื่อมั่นและกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวม
  • ปลัดคลังนัดหารือผู้บริหารระดับสูง ถกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น-กลาง เน้นดูแลตรงรายภาคธุรกิจที่ยังเดือดร้อน พร้อมมอบ สศค. ศึกษานำ “ชิมช้อปใช้” ปลุกคนรวยใช้จ่ายย้ำสัญญาณเศรษฐกิจมีทิศทางดีขึ้น
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 214 ต่อ 207 ผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อคืนนี้ โดยร่างมาตรการวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์นี้ เป็นข้อเสนอของสมาชิกพรรคเดโมแครต
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 837,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 850,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 873,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.)หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 8.2% ในเดือนก.ย.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 ต.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top