เงินบาทเปิด 31.51/53 ต่อดอลล์ แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ

จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทยวันนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.51/53 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.61 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ แต่แนวโน้มไปในทิศทางที่แข็งค่าได้เล็กน้อย หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐเริ่มกลับมาอ่อนค่า จากที่ตลาดจับตารอผลการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ขณะเดียวกันตลาดยังมีความกังวลต่อกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ คงต้องรอดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อจากกระทรวงพาณิชย์

“บาทวันนี้คงอยู่ในกรอบแคบๆ ตอนนี้ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า ตลาดรอการอนุมัติงบจากวุฒิสภาสหรัฐ รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่ตอนนี้โจ ไบเดน มีคะแนนความนิยมนำโดนัลด์ ทรัมป์อยู่ 14% และต้องติดตามกรณีที่ทรัมป์ ติดไวรัสโควิดด้วย”

นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.45-31.57 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.26499% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.31693%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.53/55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 105.07 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1731/35 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1721 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.6150 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้า (5-9 ต.ค.)ที่ 31.50-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการเมือง และบทสรุปของมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ของสหรัฐฯ สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. และปัจจัยทางการเมืองของไทย
  • จับตาการแต่งตั้ง รมว.คลัง คนใหม่ เพื่อสานต่อนโยบายภาครัฐฯ เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจไทย
  • “นักเศรษฐศาสตร์” ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทย หนีไม่พ้นเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ “เกียรตินาคินภัทร” มั่นใจไทยมีศักยภาพในการเปิดเพิ่ม หากไร้ปัญหาคอขวด พร้อมชู 3 สูตรใช้เปิดประเทศ ด้าน “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ชี้หากยังปิดประเทศต่อเนื่อง ธุรกิจเสี่ยงขาดสภาพคล่อง ด้าน “วิจัยกรุงศรี” ระบุถ้าไม่เปิดประเทศ รัฐต้องอัดมาตรการดูแลเพิ่ม
  • สธ.เร่งหารือท่องเที่ยวภายในต.ค.นี้ วางกรอบแนวปฏิบัติ “ทราเวลบับเบิล” ย้ำต้องจัดระบบรองรับ ให้พร้อม 3 ส่วน “ภาคสาธารณสุข-ผู้ประกอบการ-ประชาสังคม” แย้มเปิดรับเฉพาะพื้นที่กลุ่มสีเขียว-เหลือง บางเมืองจีน-นิวซีแลนด์-เวียดนาม รูปแบบกึ่งกักตัว แต่ผ่อนคลาย-สะดวก ไม่ถึงขั้นเดินเที่ยวอิสระ ด้านแรงงานจัดระเบียบต่างด้าวป้องกันโควิด-19
  • รัฐบาลเตรียมพัฒนาท่าเรือบก และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งสินค้าระบบคอนเทนเนอร์ พร้อมพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งอ่าวไทย-อันดามัน ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และ โลจิสติกส์ ของภูมิภาค
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 661,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 850,000 ตำแหน่ง
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 80.4 ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 79.0 จากระดับ 74.1 ในเดือนส.ค.
  • สื่อต่างประเทศรายงานอาการ “ทรัมป์” ดีขึ้น ทำเนียบขาวแพร่ภาพผู้นำสหรัฐนั่งทำงานในรพ.ทหาร พร้อมข้อความขอบคุณแพทย์ที่ช่วยดูแลและหวังจะได้กลับไปทำงานในทำเนียบขาวในเร็ววัน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 15-16 ก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามข้อมูล PMI ภาคบริการของประเทศชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (5 ต.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top