ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เริ่มเผยแพร่ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปล่อยใหม่ (New Loan Rate: NLR) ของภาคธุรกิจ โดยสามารถดูได้ผ่านทางเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งข้อมูลนี้ จะช่วยให้ภาคธุรกิจใช้อ้างอิงเพื่อขอสินเชื่อใหม่ได้ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงประเภทต่าง ๆ เช่น Minimum Loan Rate (MLR) ที่เผยแพร่อยู่ในปัจจุบัน
โดยบทความจากฝ่ายนโยบายการเงิน สายนโยบายการเงิน ธปท. ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ธนาคารพาณิชย์เผยแพร่อยู่ในปัจจุบัน อาจไม่สะท้อนต้นทุนส่วนเพิ่มสำหรับการขอสินเชื่อใหม่ (marginal cost of funds) ที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากในทางปฏิบัติ ธนาคารพาณิชย์สามารถเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปล่อยใหม่ในระดับที่สูงหรือต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ความเสี่ยงของผู้กู้ อายุสัญญา และประเภทสัญญา
ทั้งนี้ ธปท. พบว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้โดยเฉลี่ยที่ธุรกิจกู้ยืมจริง ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงของธนาคารพาณิชย์ ธปท. จึงเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและเผยแพร่ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปล่อยใหม่ (New Loan Rate: NLR) ของภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจกู้ยืมเพิ่มเติมของภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ การเผยแพร่ข้อมูล NLR ของภาคธุรกิจเป็นประจำ จะช่วยให้ภาคธุรกิจรับรู้ถึง marginal cost of funds ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลา และสามารถใช้อ้างอิงในการขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารพาณิชย์ได้
อย่างไรก็ดี การใช้ข้อมูล NLR ควรคำนึงถึงข้อจำกัดต่างๆ ดังนี้ 1. NLR อาจไม่สะท้อนต้นทุนสินเชื่อของภาคธุรกิจในภาพรวมได้ เพราะ NLR สะท้อนเฉพาะต้นทุนการขอสินเชื่อในสัญญาใหม่ของภาคธุรกิจ แต่ไม่ได้สะท้อนต้นทุนสินเชื่อของภาคธุรกิจในสัญญากู้เดิมที่ได้ตกลงไว้ล่วงหน้า
และ 2.อาจต้องระมัดระวังในการเปรียบเทียบ NLR ที่นำเสนอคำนวณจากข้อมูลที่ผู้กู้มีวงเงินรวมในธนาคารแต่ละแห่งตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งธุรกิจที่กู้ยืมด้วยวงเงินน้อยกว่า 20 ล้านบาท มีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย NLR ที่คำนวณได้
ทั้งนี้ ในระยะถัดไป หากต้องการให้ข้อมูล NLR สะท้อนต้นทุนการกู้ยืมใหม่ที่เกิดขึ้นจริงได้ดีขึ้น ควรพัฒนาการรายงานข้อมูลให้ครอบคลุมธุรกิจทุกวงเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (5 ต.ค. 63)
Tags: NLR, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., สินเชื่อ, สินเชื่อปล่อยใหม่, อัตราดอกเบี้ย