เงินบาทเปิด 31.15/17 ต่อดอลล์ ทรงตัวจากวานนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.15/17 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะปัจจัยเรื่องการชุมนุม และการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ส่งผลต่อทิศทางของตลาดเงินมากนัก แต่คงต้องรอดู Flow จากต่างประเทศว่าจะมีการเข้าออกมากน้อยเพียงใด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดยังรอดูการผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า รวมทั้งจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.20 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (14 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.29054% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.33461%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.24/28 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 105.44 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1750/1755 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1732 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1870 บาท/
    ดอลลาร์
  • นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของวันนี้ (15 ต.ค.) เป็นต้นไป เนื่องจากเห็นว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นของกลุ่มคณะราษฎร ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะในกรุงเทพฯ โดยใช้วิธีการและช่องทางต่างๆ ก่อให้เกิดความปั่นป่วน วุ่นวาย และความไม่สงบเรียบร้อยของประชาชน มีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่มีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และกระทบโดยตรงต่อมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
  • กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ออกแถลงการณ์ถึงจุดยืนต่อการสลายการชุมนุมในช่วงเช้ามืดวันนี้ ว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแกนนำ และผู้ปราศรัยรวม 4 คน เป็นการกระทำที่ไม่มีความชอบธรรม เพราะการชุมนุมเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังเป็นการบั่นทอนประชาธิปไตย รักษาอำนาจของตนและพวกพ้อง ซึ่งทางกลุ่มได้แสดงจุดยืนด้วยการนัดชุมนุมต่อไปในวันนี้เวลา 16.00 น. ที่แยกราชประสงค์
  • รมว.คลัง เปิดเผยหลังมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงการคลัง ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งหามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศเพิ่มเติมอีกในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อให้มีการใช้จ่ายขึ้นจากมาตรการที่มีในปัจจุบันรวมถึงให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนด้วย ขณะเดียวกันให้เร่งหามาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการดึงกลุ่มการท่องเที่ยวเพื่อการลงทุนเข้ามาในประเทศ
  • ‘สภาพัฒ์’ นัดถกหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งรัฐเอกชน เล็งเสนอ ศบศ.ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจ -เอสเอ็มอี หลังมาตรการพักชำระหนี้หมดอายุ คาดยืดระยะเวลาชำระหนี้ ลดความเสี่ยงสภาพคล่องธุรกิจ และการเพิ่มของเอ็นพีแอลของธนาคาร
  • ธปท. ได้รายงานต่อ ศบศ. ถึงแนวโน้มเอ็นพีแอลทั้งระบบว่า สิ้นปี 63 เอ็นพีแอลจะเพิ่มมาไม่เกิน 9% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.1% โดยในเร็ว ๆ นี้ธปท. จะเปิดเผยแนวทางก่อนสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เพื่อไม่ให้ลูกหนี้ได้รับผลกระทบ
  • นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า สทน.เสนอโครงการชวนผู้สูงวัยเที่ยววันธรรมดาผ่านทัวร์ 5,000 ล้านบาทต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายผู้สูงวัยตั้งแต่อายุ 55-75 ปีท่องเที่ยวในประเทศในวันอาทิตย์-พฤหัสบดี จำนวน 5,000 บาท/คน เพื่อกระตุ้นยอดการท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากปกติที่มีอัตราการเข้าพักแค่ 10-20% เท่านั้น
  • “สุพันธุ์” ชี้ทางเลือกปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียวตามข้อเสนอ “สุพัฒนพงษ์” จะทำเอสเอ็มอีล้านรายไปไม่รอด ต้องล้มตาย สนับสนุนการพักชำระหนี้ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ยบางส่วนให้ธุรกิจกลุ่มสีเหลืองที่พักหนี้แล้วเดินหน้าต่อได้พร้อมเสนอปล่อยกู้เพิ่มให้ บสย.ค้ำประกันเพิ่มเป็น 50% จาก 30% ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะกลุ่มสีแดงเท่านั้น ชงตั้งกองทุนฟื้นเศรษฐกิจ 1-2 แสนล้านบาท
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัว 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาที่พักในโรงแรม
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยอมรับว่า ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐ ยังเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 63)

Tags: , ,
Back to Top