สตีล ซิตี้ ย้ำดีมานด์ท่อร้อยสายไฟเหล็กในไทยยังแกร่ง แม้เผชิญโควิด-19

เลิศพงษ์ ศรีวงศ์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี.อาร์.อินดัสเตรียล จำกัด ผู้บริหารรุ่นที่ 2 ของสตีล ซิตี้ (Steel City) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายท่อร้อยและอุปกรณ์ตัวยึดสายไฟเหล็กครบวงจรรวมไปถึงอุปกรณ์บ็อกซ์ไฟฟ้า เผยความต้องการในภาคอุตสาหกรรมเหล็กในไทยยังคงขยายตัวในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากการลงทุนในโครงการระบบคมนาคม และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม

เลิศพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ส่งผลต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเน้นมาตรฐานคุณภาพสินค้าและบริการไว้ให้ดีที่สุด จะช่วยรักษาสถานะทางการค้าและสัดส่วนตลาดต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนแนวโน้มธุรกิจเหล็กครึ่งปีหลังของปี 2563 มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างมาก เพราะภาคธุรกิจหลายด้านหยุดชะงักและชะลอตัว โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ล้วนได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์โรคระบาดที่สร้างผลกระทบต่อเนื่องแบบโดมิโนไปยังธุรกิจอื่น ๆ กลุ่มผู้บริโภคล้วนคำนึงถึงการใช้จ่ายที่ต้องรัดกุมและคุ้มค่าที่สุด ในภาวะตลาดที่หดตัวเช่นนี้ ลูกค้ามีความคาดหวังต่อผลิตภัณฑ์และมองหาสินค้าคุณภาพสูงมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้องรักษามาตรฐานและคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

อุตสาหกรรมเหล็กของประเทศนั้น มีความสำคัญและมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก เลิศพงษ์ กล่าวย้ำถึงการดำเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายหลักที่การสร้างโครงสร้างธุรกิจให้ยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับท่อร้อยสายไฟเหล็กที่ผู้บริโภคเลือกเป็นอันดับแรกในไทย โดยตั้งเป้าสร้างรายได้ 50% มีมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท เป็นอย่างน้อยจากการลงทุนกว่า 250 (ล้านบาท) ในปีนี้

“ช่วงปีที่ผ่านมาสตีล ซิตี้ คือแบรนด์ชั้นนำในตลาดอุปกรณ์ติดตั้งระบบท่อร้อยสายไฟจากเหล็ก โดยได้รับการอนุมัติให้เป็นผู้ติดตั้งในระบบโครงสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีมูลค่าการก่อสร้างหลายหมื่นล้านบาท ทั้งโครงการภาครัฐและเอกชน เช่น โครงการโรงผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศของ GULF ที่ควบคุมโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และโครงการใหญ่ที่มีการขยายงาน เช่น ปตท, IRPC หรือ ไทยออยล์ ซึ่งนับว่าได้ให้โอกาสเราเติบโตเป็นอย่างดีเสมอมา”

เลิศพงษ์ กล่าว

การแข่งขันธุรกิจที่มีความรุนแรงในเวลานี้ การสร้างศักยภาพผลิตสินค้าคุณภาพดีด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย เน้นเรื่องมาตรฐานสินค้าด้วยราคาสมเหตุผลเป็นเรื่องที่สำคัญ ปัจจัยเหล่านี้เป็นประเด็นที่ สตีล ซิตี้ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

สำหรับแนวโน้มตลาดและแผนลงทุนครึ่งปีหลังนั้น เลิศพงษ์ กล่าวว่า สตีล ซิตี้ มองหาช่องทางและโอกาสในการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าและสร้างพันธมิตรในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ๆในอุตสาหกรรมเหล็ก โดยให้ความสนใจในงานสถาปัตยกรรม ที่เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เน้นเรื่องความสวยงาม และคงทน ในอนาคตมุ่งพัฒนาผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ในบ้านที่ทำจากเหล็กที่ผลิตจากโรงงานของสตีล ซิตี้ ได้อย่างครบวงจร

เลิศพงษ์ ยังได้กล่าวถึงการลงทุนซื้อเครื่องจักรทันสมัยเพื่อช่วยเพิ่มกำลังผลิต บริษัทมีโรงหลอมโรงฉีดและเครื่องจักรออโต้ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยผลผลิตเพิ่มขึ้นหลายเท่าและมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันเป็นลูกโซ่ และในปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มขนาดเตาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของตลาดที่มากขึ้น ซึ่งหากดูจากปริมาณการสั่งซื้อในแต่ละปีนั้น สินค้าประเภทนี้มีการเติบโตอยู่เรื่อยๆ ทุกปี เนื่องจากการลงทุนก่อสร้างในโครงการต่างๆ ภายในประเทศมีเพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง

Tags: , , ,
Back to Top