ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุด หลังจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ซึ่งรวมถึงบริษัทแอปเปิล อิงค์ ที่เปิดเผยยอดขาย iPhone ร่วงลงกว่า 20% ขณะที่เฟซบุ๊กเปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานในสหรัฐและแคนาดาลดลงในไตรมาส 3/2563
ณ เวลา 10.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 207 จุด หรือ -0.78% แตะที่ 26,350 จุด
แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2563 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า รายได้รวมอยู่ที่ 6.47 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบรายปี โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากยอดขาย iPhone อยู่ที่ 2.644 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 20.7% เมื่อเทียบรายปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.793 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านเฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2563 ที่ระดับ 2.71 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.91 เซนต์ แต่จำนวนผู้ใช้งานรายวันของเฟซบุ๊กในสหรัฐและแคนาดา ลดลงสู่ระดับ 196 ล้านรายต่อวันในไตรมาส 3 จากระดับ 198 ล้านรายต่อวันในไตรมาส 2
ส่วนแอมะซอน (Amazon) เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3/2563 โดยรายได้อยู่ที่ระดับ 9.615 หมื่นล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นักลงทุนผิดหวังที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ในกรอบกว้าง โดยระบุว่า รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1-4.5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าบริษัทจะมีต้นทุนในการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่ระดับราว 4 พันล้านดอลลาร์
- “แอมะซอน” กวาดรายได้ Q3 พุ่ง 37% คาดโตต่อเนื่องอีก 28-38% ใน Q4
- “เฟซบุ๊ก” ทำกำไรสูงกว่าคาดใน Q3 แม้ผู้ใช้งานรายวันในสหรัฐ-แคนาดาลดลง
- หุ้น “แอปเปิล” ร่วงกว่า 4% ผิดหวังยอดขาย iPhone ดิ่งกว่า 20%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 63)
Tags: dow jones futures, ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, หุ้นเทคโนโลยี, เฟซบุ๊ก อิงค์, แอปเปิล อิงค์, แอมะซอน