สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นสิงคโปร์คว้าตำแหน่งตลาดหุ้นที่ปรับตัวแย่ที่สุดของเอเชียในปีนี้ไปครองแทนที่ตลาดหุ้นไทย โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ยังคงดิ่งลงในวันศุกร์ (30 ต.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในประเทศแถบซีกโลกตะวันตก
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทมส์ (Straits Times Index: STI) ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ร่วงลงราว 1% เมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้ดัชนี STI ปรับตัวลง 25% แล้วในขณะนี้ เมื่อเทียบกับดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลง 24.36% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 30 ต.ค. 2563
ตลาดหุ้นสิงคโปร์ได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจต้องพึ่งพาการค้าและห่วงโซ่อุปทานโลก และขาดการรวมหุ้นเทคโนโลยีไว้ในดัชนี โดยหุ้นส่วนใหญ่กว่า 80% ของดัชนี STI เป็นหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
จิงหยี แพน นักวิเคราะห์ของไอจี เอเชียกล่าวว่า “ตลาดหุ้นสิงคโปร์อ่อนไหวอย่างมากต่อการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลก และความต้องการเสี่ยงได้ลดลง เพราะการเพิ่มขึ้นของยอดติดเชื้อโควิด-19 และการคาดการณ์ที่ว่า อัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า”
“บางภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น เป็นคู่ค้าที่สำคัญของสิงคโปร์” จิงหยีกล่าว
หุ้นที่ปรับตัวแย่ที่สุดในดัชนี STI นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ได้แก่หุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ และหุ้นคอมฟอร์ทเดลโกร คอร์ป ซึ่งดิ่งลง 46% และ 42% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดสิงคโปร์ขณะนี้อยู่ในระดับที่น่าดึงดูดใจในการเข้าลงทุน เนื่องจากดัชนี STI เทรดอยู่ที่ PE ระดับ 13 เท่าสำหรับปีหน้า สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 63)
Tags: STI, Straits Times Index, ดัชนีสเตรทส์ไทมส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นสิงคโปร์, ตลาดหุ้นไทย, บลูมเบิร์ก, เอเชีย