ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 0.10% จากระดับ 0.25% พร้อมกับปรับลดเป้าหมายเส้นอัตราผลตอบแทน (yield-curve) และลดอัตราดอกเบี้ยในโครงการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธนาคาร ลงสู่ระดับ 0.10% จากระดับ 0.25% เช่นกัน โดยการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
นอกจากนี้ RBA ยังประกาศว่า ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ RBA จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลในวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (7.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีกำหนดไถ่ถอนในระยะเวลา 5-10 ปี
นายฟิลลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA ได้แถลงภายหลังการประชุมว่า “เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะนี้แล้ว คณะกรรมการ RBA จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี คณะกรรมการจะยังคงทบทวนขนาดของโครงการซื้อพันธบัตร ซึ่งรวมถึงการทบทวนแนวโน้มการจ้างงานและเงินเฟ้อ โดยคณะกรรมการมีความพร้อมที่จะดำเนินนโยบายมากขึ้น หากจำเป็น”
ทั้งนี้ เศรษฐกิจออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 29 ปีที่เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะถดถอย โดยในไตรมาส 1 นั้น GDP ออสเตรเลียหดตัวลง 0.3% และจากนั้นได้หดตัวลง 7% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เริ่มทำการรวบรวมข้อมูล GDP ในปี 2502
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 63)
Tags: ดอกเบี้ย, ดอกเบี้ยนโยบาย, ฟิลลิป โลว์, เศรษฐกิจ