หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มแกว่งพักฐานในกรอบ วิตกโควิด-การเมืองในปท.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งพักฐานในกรอบ โดยดัชนีฯคงแกว่งบวก-ลบไม่มากหลังขึ้นไปมากแล้ววานนี้ ตอบรับคาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐไปแล้ว ซึ่งเป็นบวกต่อ Emerging Market แต่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกน่าเป็นห่วงมากขึ้น และอาจเป็นปัญหาต่อไปได้ ส่วนบ้านเราก็กังวลชุมนุมการเมืองที่จะมีขึ้น 8 พ.ย.นี้ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบราว 0.3% จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,255-1,260 แนวต้าน 1,275-1,280 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งพักฐานในกรอบ โดยดัชนีฯมีโอกาสเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วเมื่อวานนี้ ตอบรับคาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อ Emerging Market

แต่ทั้งนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกน่าเป็นห่วงมากขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูง และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจนทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อไปได้ ส่วนบ้านเราก็ยังมีความกังวลการชุมนุมทางการเมืองที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.3% พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้ และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต่อไป และจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะทำอย่างไรหลังรู้ผลการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ให้นแนวรับไว้ที่ 1,255-1,260 จุด ส่วนแนวต้าน 1,275-1,280 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,390.18 จุด เพิ่มขึ้น 542.52 จุด (+1.95%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,510.45 จุด เพิ่มขึ้น 67.01 จุด (+1.95%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,890.93 จุด เพิ่มขึ้น 300.15 จุด (+2.59%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.33 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 29.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 54.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.69 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 พ.ย.63) 1,264.32 จุด เพิ่มขึ้น 41.88 จุด (+3.43%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 127.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 พ.ย.63) ปิดที่ 38.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 พ.ย.63) อยู่ที่ 1.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.73/74 แนวโน้มยังแข็งค่า หลังดอลล์อ่อนจากปัจจัยการเลือกตั้งสหรัฐฯ
  • นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือน ต.ค. 63 พบว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าตลาดหุ้นไทยยังซบเซาอยู่ที่ระดับ 61.27 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งเกิดจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นหลัก รองลงมาคือ เศรษฐกิจถดถอย และท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงความกังวลต่อการแพร่ระบาดระลอก 2 ของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ช่วง 10 เดือน ปีนี้ มีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยถึง 3 แสนล้านบาท มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์
  • คลังแจกใบอนุญาตปล่อยกู้พิโกไฟแนนซ์แล้ว 858 ราย อวดยอดปล่อยกู้สะสมตั้งแต่ ธ.ค.2559-ส.ค.2563 แล้ว 8.2 พันล้านบาท พร้อมร่วมมือตำรวจปราบเจ้าหนี้นอกระบบ 7.4 พันราย
  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมเจรจารัฐบาลจีนเกี่ยวกับการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด (ทราเวลบับเบิล) จับคู่กับเมืองในจีน เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันโดยไม่ต้องกักตัว เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ม.ค.2564 ให้กับคนไทย และแรงผลักดันเศรษฐกิจไทย
    – ทีดีอาร์ไอ-นิด้า แนะยุทธศาสตร์แก้โจทย์วิกฤติเศรษฐกิจประเทศ เป็นห่วงว่างงานหนักหน่วงถึงปีหน้า แรงงาน 19 ล้านคนทำงานวันละไม่ถึง 4 ชั่วโมงมีรายได้ต่อวัน 160 บาท จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาให้ทันเสนอแนวทางข้าราชการบำนาญ 5-6 ล้านคนออกมาจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ

หุ้นเด่นวันนี้

  • BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 20 บาท คาดกำไร Q3/63 จะทรงตัว Y-Y ที่ระดับราว 400 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย โดยยังได้แรงหนุนจากบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 บริการ ASQ และ HQ รายได้ประกันสังคมที่ยังแข็งแกร่ง พร้อมคาดเริ่มทยอยได้อานิสงส์จาก Special Tourist Visa ซึ่งทำให้ผู้ป่วยต่างชาติค่อยๆฟื้นตัว โดยคาดกำไรปี 2563-2564 +6% Y-Y และ +12% Y-Y ตามลำดับ
  • GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 112 บาท กำไรปกติ Q3/63 +18% Q-Q, +20% Y-Y ดีกว่าตลาดคาด 23% โดยได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของไซยะบุรีและเงินปันผลรับจาก RPCL ที่เพิ่มขึ้น ชดเชยกำไรจากโรงไฟฟ้าหลักของตัวเองที่อ่อนตัว โดยคาดผลการดำเนินงานจะเร่งตัวขึ้นใน Q4/63 และได้ประโยชน์สูงสุดจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง
  • PORT (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 3 บาท หุ้นเล็ก Theme คาดนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต คว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หนุนภาคการค้าโลกกับมาฟื้นตัวเป็นบวกกับธุรกิจของ PORT โดยตรงเนื่องจากเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์แบบครบวงจร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (6 พ.ย. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top