ดร.ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ที่ปรึกษาด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุ 11 ล้านรายแล้ว
ดร.ออสเตอร์โฮล์ม ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์นโยบายการและการวิจัยโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัยมินนิโซตา กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่ล่าช้าจะเป็นอุปสรรคต่อการรับมือกับการแพร่ระบาด รวมถึงกับ การกระจายวัคซีน พร้อมเรียกร้องให้สภาคองเกรสออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ก่อนที่นายไบเดนจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2564
“เราอยู่ในช่วงที่อันตรายมาก หากเราไม่ดำเนินการตอนนี้ เราจะเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นอย่างมาก” ดร.ออสเตอร์โฮล์ม กล่าวกับรายการ “”Meet the Press” ของสถานีโทรทัศน์ NBC News
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 16.27 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ หรือ 04.27 น.ของวันจันทร์ตามเวลาไทย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 11,000,984 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 246,006 ราย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดร.ออสเตอร์โฮล์มแนะนำว่า การปิดธุรกิจและการจ่ายเงินชดเชยให้กับประชาชนที่สูญเสียค่าจ้างเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ อาจช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ และจะช่วยให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้จนกว่าจะมีการอนุมัติและจัดจำหน่ายวัคซีนต้านโรคโควิด
ทั้งนี้ ดร.ออสเตอร์โฮล์มเตือนว่า สหรัฐกำลังก้าวเข้าสู่ “นรกโควิด” (Covid hell) ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายกับการต้องสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้ สภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้นจะเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนอยู่รวมกันภายในอาคารบ้านเรือน ซึ่งจะยิ่งทำให้การสัมผัสติดเชื้อเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 63)
Tags: COVID-19, จอห์น ฮอปกินส์, สภาคองเกรส, สหรัฐ, โควิด-19, โจ ไบเดน, ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม