บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกได้ลดการถือครองหุ้นของบริษัทแอปเปิล อิงค์ และเจพีมอร์แกน เชสในไตรมาส 3/2563 แต่ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทผลิตยารายใหญ่ ซึ่งรวมถึงไฟเซอร์ อิงค์ และเมอร์ค แอนด์ โค และ AbbVia
ในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เมื่อวันจันทร์ระบุว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ได้เทขายหุ้นแอปเปิลจำนวน 36.6 ล้านหุ้นในไตรมาส 3 ซึ่งส่งผลให้จำนวนหุ้นแอปเปิลที่เบิร์กเชียร์ถือครองลดลงมาอยู่ที่ 944.3 ล้านหุ้น และขายหุ้นเจพีมอร์แกน เชส จำนวน 21.2 ล้านหุ้น ซึ่งส่งผลให้จำนวนหุ้นเจพีมอร์แกนที่เบิร์กเชียร์ถือครองอยู่ ลดลงมาอยู่ที่ 967,267 หุ้น ณ วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันเบิร์เชียร์ได้ถือครองหุ้นบริษัทไฟเซอร์จำนวน 3.7 ล้านหุ้น, หุ้นเมอร์คจำนวน 22.4 ล้านหุ้น และหุ้น AbbVie จำนวน 21.3 ล้านหุ้น ณ สิ้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เบิร์กเชียร์ได้รายงานถึงการเข้าถือหุ้นไฟเซอร์และหุ้นบริษัทผลิตยารายอื่นๆ ในช่วงเวลาที่การพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยไฟเซอร์แถลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์และ BioNTech พัฒนาร่วมกันนั้น มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
โมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐแถลงเมื่อวานนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94% โดยโมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 63)
Tags: AbbVia, วอร์เรน บัฟเฟตต์, เจพีมอร์แกน เชส, เมอร์ค แอนด์ โค, แอปเปิล อิงค์, โมเดอร์นา อิงค์, ไฟเซอร์ อิงค์