กรุงศรี ออโต้ หวังฟื้นตามยานยนต์-เปิด App ใหม่,รับดีลออมสิน-SAWAD ทำตลาดแข่งเดือด

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ มองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในไตรมาส 4/63 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง เป็นผลจากการที่ภาครัฐเดินหน้าลงทุนโครงการต่างๆ ทำให้ภาคเศรษฐกิจต่างๆ ขยับตามไปด้วย โดยเบื้องต้นกรุงศรี ออโต้ ประเมินว่าผลการดำเนินงานน่าจะดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่ กรุงศรี ออโต้ ยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อตามปกติ ขณะที่ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาก็มีการช่วยเหลือลูกค้าตามมาตรการของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการพักชำระหนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถดูแลตัวเองได้ ส่งผลทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ขณะเดียวกันลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้และลดค่างวด 30% ในรอบที่ 2 ก็มีจำนวนลดลง หรือคิดเป็น 5.5% ของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาขอพักชำระหนี้ทั้งสิ้น 6.5 แสนราย ส่วนที่เหลือยังคงชำระค่างวดได้ตามปกติ จึงคาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถควบคุม NPL ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ต่อไปได้

ส่วนกรณีที่ธนาคารออมสินร่วมลงทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ลดต่ำลงสู่ระดับ 18% เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดในตลาดอยู่ที่ 24% นั้น ยอมรับว่าคงเห็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจต้องปรับตัว แต่มองว่าเป็นผลดีกับผู้บริโภคทำให้มีทางเลือกมากขึ้น

“เรามองว่าเป็นผลดีต่อผู้บริโภค จะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ส่วนการแข่งขันจะดุเดือดหรือไม่นั้น เป็นเรื่องปกติของธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งธุรกิจก็ต้องปรับตัว ขณะที่เราเองก็ยังคงเดินหน้าใช้กลยุทธ์ Krungsri Auto Ecosystem ในการขยายฐานลูกค้า ที่จะมีบริการดีๆ ที่มีความหลากหลายเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า นอกเหนือจากการแข่งขันด้วยดอกเบี้ย”

นางกฤติยา กล่าว

ล่าสุด กรงศรี ออโต้ ได้เปิดตัว “GO Application by Krungsri Auto” แอพพลิเคชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถ โดยนำเสนอ 4 ฟีเจอร์จาก 5 บริการที่ผู้ใช้รถให้ความสำคัญสูงสุดจากการสำรวจของกรุงศรี ออโต้ ได้แก่ ข้อมูลราคาน้ำมันแบบเรียลไทม์, สิทธิประโยชน์ ส่วนลด และของสมนาคุณจากแบรนด์พันธมิตร อีกทั้งยังสามารถเข้าถึง 3 ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของกรุงศรี ออโต้ ได้แก่ ประเมินวงเงินสินเชื่อรถยนต์ใหม่, รถยนต์มือสอง, รถจักรยานยนต์ และบิ๊ก ไบค์ ผ่านกรุงศรี ออโต้ รวมถึงสมัครสินเชื่อเพื่อคนมีรถ คาร์ ฟอร์ แคช และเชื่อมต่อสู่บริการประกันภัยยานยนต์บนเว็บไซต์จากกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์

นางกฤติยา กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ เริ่มนำร่องบริการแอปพลิเคชันแก่ลูกค้ามาตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลสินเชื่อ และประวัติการชำระ รวมถึงชำระค่างวดผ่านบาร์โค้ด คิวอาร์โค้ด และบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยาในแอปพลิเคชัน KMA ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อกระตุ้นการใช้งานในช่วงเปิดตัว จึงออกแคมเปญพิเศษลุ้นรับ iPhone 12 จำนวน 12 เครื่อง โดยตั้งเป้าผลักดันยอดดาวน์โหลดเพิ่มเป็น 1,000,000 ครั้งภายในสิ้นปี 64 จากสิ้นปีนี้คาดอยู่ที่ 5 แสนครั้ง จากปัจจุบันมียอดแล้ว 3 แสนครั้ง

ขณะที่เร็วๆ นี้ ก็มีแผนจะขยายบริการไลฟ์สไตล์อื่นๆ เช่น การร่วมกับผู้นำลอยัลตี้แพลตฟอร์ม เช่น The 1, การนัดหมายเพื่อนำรถเข้าบำรุงรักษากับพันธมิตรค่ายรถยนต์ ตลอดจนเสริมบริการที่ปรึกษาอัจฉริยะด้านการประกันภัย และพร้อมต่อยอดบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล (Digital Auto Lending) ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น

“ด้วยกลยุทธ์ในการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถ ควบคู่ไปกับการบริการด้านการเงิน กรุงศรี ออโต้ ได้เดินหน้าผลักดันโมเดลธุรกิจใหม่ ‘Krungsri Auto Ecosystem’ มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตร (Partnership) ที่แข็งแกร่ง และการพัฒนาแหล่งซื้อขายออนไลน์ (Marketplace) ทั้งบนแพลตฟอร์มของกรุงศรี ออโต้ และของพันธมิตร ล่าสุด เราพร้อมนำเสนอ GO Application by Krungsri Auto หมุดหมายสำคัญในการสร้างอีโคซิสเต็มให้สมบูรณ์ และจุดเริ่มต้นของการมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ทั้งลูกค้าและผู้ใช้รถทั่วไปได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น”

นางกฤติยา กล่าว

ปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ มีลูกค้ารวม 1.8 ล้านราย ขณะที่ในประเทศมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 21 ล้านราย และรถยนต์ 17 ล้านราย โดยแอพพลิเคชัน GO Application by Krungsri Auto สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ และที่ไม่ใช่ลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า GO Application by Krungsri Auto จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับกรุงศรี ออโต้ ที่ไม่ใช่แค่บริการด้านการเงิน แต่จะเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่จะเข้ามาต่อยอดทางธุรกิจในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top