นายกฯ กำชับหน่วยงานเร่งมาตรการกระตุ้นศก.ต่อเนื่อง ดูแลประชาชน,ภาคธุรกิจ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ที่นำเสนอโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ปรับตัวลดลง -6.4% ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีการปรับตัวลดลง -12.1% และหากรวม 9 เดือนแรกของปี 2563 เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลง -6.7%

ทั้งนี้ การปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจไทย เนื่องมาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง และการผ่อนคลายการจำกัดการเดินทางภายในประเทศ

สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยของทั้งปี 2563 นั้น สศช. คาดว่ามีแนวโน้มลดลง -6.0% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวในช่วง 3.5 – 4.5% โดยมีแรงสนับสนุนจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีการปรับตัวสูงขึ้นภายในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก และแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐจากการเบิกจ่ายภายใต้กรอบงบประมาณและมาตรการทางเศรษฐกิจต่างๆ

ทั้งนี้ ยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2564 ได้แก่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศ ซึ่งอาจมีความยืดหยุ่นและรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปริมาณการค้าโลก ภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับเงื่อนไขด้านการจ้างงาน และฐานะการเงินภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ รวมทั้งความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้งและความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ

นายอนุชา กล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะบ่งบอกว่าไทยมีแนวโน้มด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพื่อที่จะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น กระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมการจ้างงาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยเหลือลูกหนี้บุคคล และลูกหนี้ธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหนี้ SME และเร่งดำเนินการมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐโดยเร็ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top