เงินบาทเปิด 30.30 ต่อดอลล์ แข็งค่าจากวานนี้ตามตลาดโลก

หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.30 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.37 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้ไม่ค่อยดี

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ตามตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจ (ของสหรัฐ) ออกมาไม่ดี”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.25-30.35 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดติดตามดูท่าทีการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ซึ่งก่อนหน้านี้ รมว.คลัง และผู้ว่าการธปท.ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับภูมิภาค นอกจากนี้ยังติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย

THAI BAHT FIX 3M (25 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.40328% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.41046%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 104.38 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.15/57 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1924 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1790/1.2020 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.358 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในไตรมาส 2 โดยในปี 64 รัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังมีแผนที่ออกมาตรการคนละครึ่งเฟส 2 ในวันที่ 1 ม.ค.64 นอกจากนี้ ยังเน้นการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงสนับสนุนและจะผลักดันในโครงการที่มีศักยภาพและสามารถเติบโตได้ในอนาคต เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลัง ยืนยัน มีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพื่อลงทุนในระยะต่อไป โดยรัฐบาลยืนยันจะทำด้วยความระวังและรอบคอบ
  • นักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) รวม 39 บริษัท ได้หารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีคณะนักธุรกิจบริษัทสมาชิก USABC จำนวน 28 บริษัท นำโดยนายอเล็กซ์ เฟลด์แมน ประธาน USABC นายเจฟฟ์ เลอร์แมน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Chevron Asia South และมีคณะนักธุรกิจบริษัทสมาชิก USABC อีก 11 บริษัทเข้าร่วมผ่านระบบการประชุมทางไกล
  • นายกฯ ยันโครงการคนละครึ่ง มีเฟส 2 แน่นอนหลังได้รับคำชมเพียบ ขอทุกคนดูแลสิทธิตัวเอง อย่าปล่อยให้มีการโกงย้ำต้องซื่อตรงต่อวิชาชีพ คลังมั่นใจเดินหน้าได้ทันที 1 ม.ค.ปีหน้า พร้อมเร่งผลักดันมาตรการชุดใหญ่ฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพื้นที่อีอีซี สบน.ออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน ครั้งที่ 2 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
  • รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้ประเมินแนวโน้มการส่งออกของไทยว่าตลอดทั้งปีนี้จะติดลบ 7-8% แต่ถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นจากช่วงต้นปีที่เคยประเมินไว้ว่าจะติดลบ 10-12% หลังจากที่ 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ตัวเลขติดลบ 7.62% ซึ่งมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องและคาดว่าปี 2564 การส่งออกจะพลิกกลับมาเติบโตได้ 4% ภายใต้สมมติฐานเงินบาทไม่แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งและไม่มีการกลับมาระบาดของโควิด-19 รอบใหม่
  • นายกฯ เตรียมถก ครม.เคาะชื่อ 2 ตัวแทนรัฐบาลนั่ง คกก.สมานฉันท์ “วิษณุ” ชี้จำนวนคณะกรรมการไม่สำคัญหากผู้ชุมนุมไม่ร่วมพูดคุยก็ไร้ประโยชน์
  • รัฐมนตรีคลังอังกฤษ แถลงต่อรัฐสภาเมื่อคืนนี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลง 11.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบกว่า 300 ปี โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 4-5 พ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดอาจจะเสนอสัญญาณชี้นำแบบใหม่สำหรับการซื้อสินทรัพย์ในเร็วๆ นี้ ขณะที่เฟดพยายามหาลู่ทางที่จะพยุงเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 33.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 778,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วและสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 733,000 ราย จากระดับ 742,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงในเดือนพ.ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่สูงเกินคาด ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 76.9 ในเดือนพ.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 76.8 จากระดับ 81.8 ในเดือนต.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top