ดาวโจนส์ปิดบวก 104.09 จุด ข่าววัคซีนคืบหน้าหนุนแรงซื้อหุ้นสุขภาพ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ หลังมีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งการโหวตร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์)

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,173.88 จุด เพิ่มขึ้น 104.09 จุด หรือ +0.35%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,702.25 จุด เพิ่มขึ้น 10.29 จุด หรือ +0.28%
  • ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,582.77 จุด เพิ่มขึ้น 62.82 จุด หรือ +0.50%

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพอย่างคึกคัก โดยหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.18% หลังจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ไม่ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย นอกจากนี้ ข้อมูลยังมีความสอดคล้องกับข้อเสนอของ FDA ที่จะให้มีการอนุมัติวัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉิน (EUA)

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ดีดตัวขึ้น 1.77% หลัง J&J เปิดเผยว่า ทางบริษัทอาจได้ผลการทดลองขั้นสุดท้ายของวัคซีนต้านโควิด-19 แบบโดสเดียวในเดือนม.ค.นี้ ซึ่งเป็นเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 6.48% ขานรับข่าวสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มคำสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา จากเดิม 4.5 ล้านโดส เป็น 7.5 ล้านโดส

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธุรกิจสุขภาพนั้น หุ้น Abbvie ดีดตัวขึ้น 1.75% หุ้นอิไล อิลลี่ (Eli Lilly) บวก 1.28% หุ้นไมแลน เอ็นวี ปรับตัวขึ้น 1.54% หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.46%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.28% หุ้นเชฟรอน บวก 0.86% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.16% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ เพิ่มขึ้น 1.82%

หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวลง 0.57% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 737 MAX ลดลงในเดือนพ.ย.

หุ้น TripAdvisor ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวของสหรัฐ ร่วงลง 1.68% หลังจากรัฐบาลจีนประกาศลบแอปพลิเคชันจำนวน 105 แอป ซึ่งรวมถึงแอปของบริษัท TripAdvisor ออกจากแอปสโตร์ในประเทศจีน โดยอ้างว่าเป็นไปตามมาตรการกวาดล้างแอปพลิเคชันที่มีแนวโน้มเผยแพร่คอนเทนท์ที่เกี่ยวข้องกับภาพลามกอนาจาร, การค้าประเวณี, การพนัน และความรุนแรง

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ในวันนี้ และเพื่อให้เวลาแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากขึ้นในการเจรจาข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทางด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แสดงความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top