KUN ตั้งเป้ารายได้ปี 64-68 โตเฉลี่ย 10-20% เตรียมรุกโซนเหนือ-ใต้ของกทม.

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนรองรับธุรกิจในอีก 4-5 ปีข้างหน้า (64-68) โดยการวางกลยุทธ์ในการหาที่ดินเพิ่ม เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ประมาณ 10-20% และยังคงมุ่งเน้นพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” ในทุกทำเลให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เหนือ, ใต้, ตะวันออก และตะวันตก ตามนโยบายและวิสัยทัศน์ที่บริษัทฯวางไว้

ขณะนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการวางแผนศึกษาการลงทุนพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัยแนวราบในทิศที่ 3 และ ทิศที่ 4 คือโซนทิศเหนือ และทิศใต้จากปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการใน 2 ทิศรอบกรุงเทพฯ ได้แก่ ทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ คือในโซนพื้นที่บางบัวทอง และทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ คือในโซน จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้ง 2 โซน ดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จและได้การตอบรับจากผู้บริโภค เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าหากพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร แนวราบได้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพฯ จะส่งผลให้บริษัทฯมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 10-20 %

ในปัจจุบันพื้นที่ KUN มีพื้นที่รอการพัฒนาในโซนนนทบุรีและฉะเชิงเทรารวม 40 ไร่ จะเริ่มทยอยเปิดตัวเพิ่มในปี 2564 เป็นต้นไปเพื่อทดแทนสินค้าที่กำลังจะหมดลง โดยพื้นที่ดังกล่าวสามารถรองรับการพัฒนาโครงการได้ทั้งหมด 2 โครงการ จากปัจจุบันมีโครงการอยู่ 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ คุณาลัย คอร์ทยาร์ด เฟส 2, โครงการ คุณาลัย จอย, โครงการ คุณาลัย บีกินส์ 2, โครงการ คุณาลัย พรีม และคุณาลัย จอย ออน 314 จ.ฉะเชิงเทรา คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด 4,542 ล้านบาท ทั้งนี้ หากพิจารณาโครงการ KUN ในพื้นที่บางบัวทอง อยู่ที่ 5 โครงการ ทำให้เห็นว่าเราเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ อันดับต้นๆบนโซนทำเลบางบัวทอง

นางประวีรัตน์ กล่าวถึงกลยุทธ์ในช่วงไตรมาสของสุดท้ายของปี 2563 ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ยังคงมีความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) โดยส่วนใหญ่จะมองหาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการทำโปรโมชั่นโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี ถือเป็นช่วงฤดูกาลขาย (ไฮซีซั่น) ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ดังนั้น การทำโปรโมชั่นจะเป็นอีกปัจจัยในการประกอบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทฯยังคงทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (Online) เพื่อเป็นข้อมูลให้ลูกค้าตัดสินใจ รวมถึงช่องทางการบอกต่อของกลุ่มลูกค้าเก่า ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าการบอกต่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดี และด้วยสินค้าในทุกโครงการของบริษัทฯที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพ จึงเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อโครงการของ KUN

ในช่วงไตรมาส 4/63 บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างยอดขาย ขณะเดียวกันยังคงเน้นการสร้างสินค้าเพื่อส่งมอบตามแผน สร้างการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีที่สุด เพื่อจะช่วยสร้างกำไรให้สูงสุดในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากที่ทำยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปตามเป้าแล้ว

สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ ในช่วงโค้งสุดท้าย บริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้ หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรุปงบไตรมาส 3/63 และจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อแจ้งให้กับนักลงทุนได้ทราบเร็วๆ นี้

ล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่าประมาณ 485 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/63 ให้มากที่สุด ส่วนที่เหลือจะทยอยส่งมอบในปีถัดไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ไว้ที่ 750 ล้านบาท จากการส่งมอบบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยืนยันรักษายอดขาย (Presale) ในช่วงไตรมาสสุดท้ายให้ดีที่สุด แม้สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะมีการชะลอตัว และยังมีปัจจัยกดดันภายนอกอื่น ๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top