ผู้เชี่ยวชาญชี้ปัญหาขาดแคลนแพทย์-พยาบาลทำให้ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนล่าช้า

ซายูริ ชิราอิ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเคโอะ กล่าวว่า การขาดแคลนแพทย์และพยาบาลท่ามกลางปัญหาประชากรสูงอายุของญี่ปุ่นมีส่วนทำให้โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นไปอย่างล่าช้า

ข้อมูลจาก Our World in Data ระบุว่า ณ วันที่ 21 มิถุนายน มีประชากรของญี่ปุ่นเพียง 18.3% ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งหากเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วถือว่าล่าช้าอย่างมาก โดยประชากรสหรัฐมากกว่า 50% ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว ขณะที่ในอังกฤษมีผู้ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วสูงถึง 63.6%

ชิราอิให้สัมภาษณ์ในรายการ Street Signs Asia ของของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า

“ในสังคมสูงอายุ เป็นเรื่องยากมากที่จะพบหมอและพยาบาล และรัฐบาลท้องถิ่นนั้นมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะดูแลการจัดสรรวัคซีน จึงทำให้การฉีดวัคซีนนี้ล่าช้า”

บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ The Lancet เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาระบุว่า ญี่ปุ่นอนุญาตให้พยาบาลและแพทย์เป็นผู้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเท่านั้น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การฉีดวัคซีนล่าช้า และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นพยายามเร่งฉีดวัคซีนให้ทันก่อนเปิดฉากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดในญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายข้อกำหนดทางการแพทย์เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่การแพทย์สามารถร่วมโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ญี่ปุ่นสามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่า 1 ล้านโดสเมื่อวานนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top