รัฐบาลอังกฤษเตรียมพิจารณาแผนระดมฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เพิ่มเติมในช่วงเดือนก.ย.นี้เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน หลังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนว่า ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดสที่สาม
รัฐบาลอังกฤษระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจแน่นอนว่า จะมีแผนระดมฉีดวัคซีนครั้งใหม่หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า ควรเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นการป้องกัน
คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการฉีดวัคซีนและสร้างภูมิคุ้มกันของอังกฤษ (JCVI) ให้คำแนะนำว่า ควรเตรียมแผนระดมฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อีกครั้งในเดือนก.ย.นี้เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเริ่มจากประชาชนกลุ่มที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป, ผู้อาศัยในบ้านพักคนชรา, และผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือกลุ่มเปราะบางอื่นๆ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อังกฤษฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกให้กับประชาชนวัยผู้ใหญ่เป็นจำนวน 85% ของประชากรทั้งหมด โดย 60% ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว
ความสำเร็จของแผนระดมฉีดวัคซีนของอังกฤษ ทำให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษให้คำมั่นว่า จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
ด้านนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ของอังกฤษกล่าวว่า
“เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเชื้อไวรัสตัวนี้ แผนระดมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งแรกของเรากำลังช่วยให้ประชาชนในประเทศใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ และแผนระดมฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิจะช่วยรักษาอิสรภาพนี้ไว้”
ข้อมูลวิจัยระบุว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างน้อย 6 เดือน โดยคาดว่า ในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ จะมีงานวิจัยเพิ่มเติมที่ศึกษาเรื่องระยะเวลาที่วัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, ฉีดวัคซีน, ซาจิด จาวิด, บอริส จอห์นสัน, ยกเลิกล็อกดาวน์, วัคซีนต้านโควิด-19, อังกฤษ, โควิด-19