สัมภาษณ์พิเศษ: EKH มั่นใจปี 64 รายได้โตเข้าเป้า 20% ตรวจโควิดหนุน,เลื่อนเปิด รพ.เฉพาะทาง 1-2 เดือน

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เปิดเผยกับ”อินโฟเควสท์”ว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 800 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อนที่ 658 ล้านบาท หลังแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/64 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่มีรายได้ 215 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท

EKH ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกล่าสุด ทั้งรายได้จากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 วันละประมาณ 100-200 คน ซึ่งมีทั้งบริการตรวจแบบ Drive thru และ Walk-in แต่ในเร็วๆ นี้คงต้องยุติการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากประสบปัญหาเตียงไม่พอ แม้จะเพิ่มเตียงและขยายห้องเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อจากเดิม 142 เตียง เป็น 300 เตียงแล้วในปัจจุบัน

ด้านการนำเข้าวัคซีนทางเลือก ทางบริษัทได้สั่งจองวัคซีนโมเดอร์นากับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ราคาอยู่ที่โดสละ 1,700 บาท และคาดว่าจะสามารถนำเข้ามาได้ในช่วงเดือน ต.ค. ขณะเดียวกันยังเดินหน้าช่วยภาครัฐฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั้งวัคซีนซิโนแวกและแอสตร้าเซนเนก้าอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น โดยดำเนินการรีโนเวทพื้นที่ในโรงพยาบาลและเพิ่มบุคลากรในแต่ละศูนย์เฉพาะทางเพื่อเพิ่มการดูแลเชิงลึก เช่น ศูนย์กระดูกและข้อที่มีแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเข้ามา ศูนย์กายภาพบำบัดที่รีโนเวทเพื่อรองรับเคสอุบัติเหตุ และศูนย์ความงามเป็นต้น

สำหรับภาพรวมธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังยังคงมั่นใจว่าจะทำรายได้ดีกว่าปีก่อนเนื่องจากยังคงมีรายได้ต่อเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19ที่ยังไม่คลี่คลาย และในช่วงปลายปีจะมีรายได้จากศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) กลับเข้ามาหากมีการเปิดประเทศตามนโยบายของภาครัฐ โดยคาดว่าในไตรมาส 4/64 จะมียอดผู้ใช้บริการอย่างน้อย 200-300 เคส จากปัจจุบันที่มีเพียงผู้ใช้บริการชาวไทยประมาณ 10 เคส และหากสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติคาดว่ายอดผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 10% และจะมีรายได้จากศูนย์ IVF ในแต่ละปีในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้รวมทั้งหมด

ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายของประเทศจีนให้ประชาชนมีบุตรได้ 3 คน จากเดิม 2 คน ทำให้มีลูกค้าชาวจีนติดต่อสอบถามเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งบริษัทยังคงทำแผนการตลาดไปยังลูกค้าในประเทศอื่นด้วยเช่นกัน แม้ที่ผ่านมาสัดส่วนหลักจะเป็นลูกค้าชาวจีน แต่ก็ยังมีลูกค้าจากประเทศอื่น เช่น อินเดียและเมียนมา เป็นต้น

นายแพทย์อำนาจ กล่าวถึงโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะสุดท้ายว่า ตามแผนงานเดิมจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1/65 แต่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้โครงการอาจจะล่าช้าไปประมาณ 1-2 เดือน โดยโรงพยาบาลดังกล่าวใช้งบลงทุนประมาณ 110 ล้านบาท เป็นอาคาร 5 ชั้น ในพื้นที่พระรามสอง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 35 เตียง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 ปีจึงจะคืนทุน

นอกจากนี้ทางบริษัทอาจจะนำกัญชามาช่วยเสริมในการรักษาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย โดยจะมีที่ปรึกษาเป็นบุคลากรการแพทย์ที่ผ่านการอบรมเรื่องการใช้กัญชาสำหรับกระบวนการรักษาอีกด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top