องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยว่า ประเทศกลุ่มพัฒนาแล้วสูญเสียการจ้างงานมากถึง 22 ล้านตำแหน่งจากผลกระทบของโควิด-19
รายงานการจ้างงานประจำปีของ OECD ระบุว่า มาตรการรักษาการจ้างงานที่หลายประเทศใช้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สูงสุด ได้ป้องกันการสูญเสียตำแหน่งงานราว 21 ล้านตำแหน่ง ถึงกระนั้น ประเทศร่ำรวยก็ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงที่อัตราว่างงานในระยะยาวจะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากแรงงานทักษะต่ำที่ตกงานในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดนั้น ยังไม่สามารถหางานใหม่ได้
“ในจำนวนตำแหน่งงานที่สูญเสียไปในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดนั้น ส่วนหนึ่งจะไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีกเลย” นายสเตเฟน คาร์ซิลโล ผู้นำฝ่ายการจ้างงานและรายได้ของ OECD เปิดเผยในแถลงข่าว
ในเดือนพ.ค. 2564 อัตราว่างงานในประเทศสมาชิก OECD ลดลงสู่ระดับ 6.6% ซึ่งยังสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 แพร่ระบาดอยู่อย่างน้อย 1% ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ที่สูญเสียการจ้างงานทั้งหมด 22 ล้านราย มี 8 ล้านรายที่ค้นหาตำแหน่งงานอยู่ ขณะที่ 14 ล้านรายที่ไม่ได้ค้นหาตำแหน่งงานในขณะนี้
OECD ระบุว่า สำหรับสภาพการจ้างงานในประเทศสมาชิก OECD นั้น คาดว่าจะยังไม่กลับคืนสู่ระดับปกติจนถึงไตรมาส 3/2567 อย่างไรก็ตาม บางประเทศ เช่น ประเทศในเอเชียแปซิฟิก มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่านั้น เนื่องจากสามารถรับมือวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี
นอกจากนี้ OECD ยังระบุว่า กลุ่มประชากรเปราะบาง เช่น สตรีและแรงงานทักษะต่ำ เป็นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากการว่างงานแฝงอย่างหนักที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ทำงานในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 64)
Tags: OECD, การจ้างงาน, สเตเฟน คาร์ซิลโล, อัตราว่างงาน, แรงงาน