AMR เตรียมเดินหน้าขายหุ้น IPO 150 ล้านหุ้น พร้อมเข้า SET ภายใน Q3/64

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าเข้าระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในไตรมาส 3/64 ตามแผนงานที่วางไว้ แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เนื่องจากมั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทอยู่ในเมกะเทรนด์ที่ขยายตัวตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่ม เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์การต่าง ๆ คลี่คลาย

AMR ดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชั่น (System Integrator: SI) รวมถึงให้บริการงานดูแลรักษาและซ่อมบำรุงระบบเทคโนโลยีแบบครบวงจร โดยผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ สามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภทตามโครงสร้างรายได้ ได้แก่ (1) งานให้บริการวางระบบคมนาคมขนส่งและวางระบบไอซีทีและซิสเต็มส์โซลูชั่น (2) งานให้บริการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง และ (3) การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีโซลูชั่น

วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้สามส่วน ประกอบด้วย 1. เงินลงทุนในการพัฒนาธุรกิจด้านระบบคมนาคมขนส่ง ด้านพลังงาน และเมืองอัจฉริยะ 2. เงินทุนสำหรับการวิจัยและพัฒนาด้านการให้บริการและต่อยอดเทคโนโลยี และ 3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชยธนกิจ บล.ทรีนิตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ AMR กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ AMR ในการรองรับการขยายการเติบโตในอนาคต ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมรับงานใหม่ เนื่องจากภาครัฐยังมีโครงการลงทุนเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันโครงการต่างๆ อาจจะชะลอไปบ้างจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แน่นอนในระยะต่อไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้บริษัทเข้ารับงานใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทำให้ผลการดำเนินงานยังคงมีทิศทางเติบโตตามโครงการลงทุนต่างๆ ที่จะออกมา

นายธงชัย จิรัฐิติพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงิน AMR กล่าว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ะบาดโควิด-19 บ้างเล็กน้อย โดยในช่วงปี 61-63 รายได้เติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปี ซึ่งในปี 63 บริษัทมีรายได้ 2.58 พันล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจากปี 62 ที่มีรายได้ 1.46 พันล้านบาท จากการส่งมอบงานระบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย และโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง

ขณะที่การเติบโตของกำไรในปี 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9.6% เพิ่มขึ้น 1.9% ในปี 62 และอัตรากำไรขั้นต้นในปี 63 อยู่ที่ 20.6% เพิ่มขึ้น 18.3% ในปี 62 เนื่องจากบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และแทบไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย โดยที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ในปี 63 อยู่ที่ 0.01 เท่า จึงไม่มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเข้ามากดดันความสามารถในการทำกำไร กำไรปีที่ผ่านมาจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ และมีความพร้อมเข้ารับงาน รวมถึงการลงทุนใหม่ๆในอนาคต

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ AMR กล่าวว่า บริษัทยังคงมองทิศทางการเติบโตของธุรกิจในอนาคตยังมีโอกาสอีกมาก จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่จะออกมา เชื่อว่าภาครัฐยังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องเมื่อการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะงานระบบโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ มูลค่างานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1 แสนล้านบาท

โดยงานระบบรถไฟฟ้าที่บริษัทให้ความสนใจในการเข้ารับงานนั้นส่วนใหญ่จะเป็นงานโครงการระบบรถไฟฟ้าที่เป็น Feeder Line ที่ยังมีแผนการลงทุนออกมาในอนาคตอยู่หลายสาย ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ขนส่งคนในชุมชนและพื้นที่ต่างๆเข้ามาสู่สายหลักเข้าสู่ใจกลางเมือง ประกอบกับเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า มองโอกาสขยายงานจุดชาร์จรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับโครงการสมาร์ทซิตี้ ซึ่งจะมีการลงทุนระบบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับไอทีที่เป็นโอกาสรับงานบริการระบบไอทีโซลูชั่น

ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากการบริการในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า เพิ่มเป็น 20-30% จากที่ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากงานบริการอยู่ที่ 10% และคาดหหวังจะผลักดันเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต เพื่อทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทมีความสมดุลกันมากขึ้นระหว่างงานรับเหมากับงานบริการ เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top