TM เผยออเดอร์ Rapid Antigen Test ไหลเข้าคาดหนุนรายได้ Q3/64 แตะ 250 ลบ.

นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล (TM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดยอดขายในไตรมาส 3/64 มีแนวโน้มแตะระดับ 250 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะมาจากยอดขายชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยตนเองแบบเร่งด่วน (Rapid Antigen Test) ยี่ห้อ Humasis จากประเทศเกาหลีใต้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาแล้วไม่ต่ำกว่า 60-70 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 650-700 ล้านบาท อย่างแน่นอน

ความต้องการใช้ชุดตรวจดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ยกระดับถึงขั้นวิกฤติ และเพื่อควบคุมการระบาดทำให้ภาครัฐบาลมีการอนุมัติปลดล็อกการใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโรคโควิด โดยประชาชนสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาที่มีเภสัชกรควบคุม ทำให้ชุดตรวจดังกล่าวกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสด้วยตนเอง กลุ่มสมาชิกของสมาคมร้านขายยาเวชภัณฑ์จึงมีความต้องการ Rapid Antigen Test เพื่อจัดจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น

“จากกลยุทธ์การเจาะตลาดไปยังช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านยาเวชภัณฑ์ ทำให้ความต้องการใช้ Rapid Antigen Test มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการที่ TM มีใบอนุญาติในการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้กับโรงพยาบาลรัฐบาล และโรงพยาบาลเอกชน มากว่า 1,000 แห่งอยู่แล้ว ยิ่งตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือในฐานะตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ฆ่าเชื้อไวรัส”

ปัจจุบัน TM เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ฆ่าเชื้อโควิด อาทิ เจลล้างมือ PURELL, หน้ากาก Life 3D Surgical Mask, ชุด PPE, ผลิตภัณฑ์ Ara Dry Shampoo เช็ดทำความสะอาดผิวกาย, แผ่นเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ V-Wipes, ผลิตภัณฑ์ Aircraft Odor Eliminator สเปรย์ปรับอากาศและขจัดกลิ่น สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ผลิตภัณฑ์ Fresh & Clean 3 in1 สเปรย์ปรับอากาศ ฆ่าเชื้อโรค และขจัดกลิ่น ภายใต้แบรนด์ Callington, ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ Netbiokem DSAM+ Hospital Grade Disinfectant น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย Covid-19 เครื่องฟอกอากาศ M-One กำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และฝุ่นพิษ PM 2.5 รวมถึงเครื่องผลิตออกซิเจน เป็นต้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top