WICE เล็งเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้รับดีมานด์พุ่ง,รุกขยายพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพิจารณาปรับเป้าหมายผลประกอบการปี 64 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 20% โดยจะทบทวนหลังแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/64 เนื่องจากทิศทางความต้องการการขนส่งยังเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งสถานการณ์การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ทำให้ค่าขนส่งยังทรงตัวสูงต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“ความต้องการการขนส่งยังมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่เราให้บริการทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ และตลาดคู่ค้าหลักบ้านเรา ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป หรือจีน เริ่มฟื้นตัวได้ดี แม้ว่าจะมีผลกระทบจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่เราสามารถบริหารจัดการได้ดี ประกอบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราได้เพิ่มตู้มาจำนวนหนึ่ง และยังมีแผนเพิ่มตู้อีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ในขณะเดียวกันยังได้บริหารพื้นที่การจัดส่งบนเรือร่วมกับพันธมิตรได่เป็นอย่างดีด้วย เป็นสิ่งสนับสนุนการเติบโตที่ดีในปีนี้”

นายชูเดช กล่าว

ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจคลังสินค้า โดยบริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ เป็นบริษัทย่อย ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับคลังสินค้าและบริการจัดการซัพพลายเชน ล่าสุดได้เปิดให้บริการในโซนใหม่บางนา-ตราด พื้นที่ 10,000 ตารางเมตรช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีอัตราเช่าพื้นที่แล้วกว่า 60% และคาดว่าจะถึงระดับ 100% ในปลายปีนี้ ทั้งนี้ ในโซนใหม่ดังกล่าวจะให้เน้นบริการด้านกลุ่มลูกค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและสินค้าแฟชั่น

บริษัทวางเป้าหมายรายได้จากบริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ ในปี 64 ราว 150 ล้านบาท และมีแผนขยายพื้นที่คลังสินค้า-ซัพพลายเชนเพิ่มภายใน 3 ปีนี้ (65-67) ให้เป็น 100,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันมีพื้นที่รวม 25,000 ตารางเมตร โดยจะรุกขยายในพื้นที่โซนรังสิต-วังน้อย และในโซนเดิมที่มีทั้งแหลมฉบัง-ระยอง, บางนา-ตราด จากปัจจุบันมีพื้นที่คลังสินค้าในจังหวัดระยอง 10,000 ตารางเมตร และ จังหวัดชลบุรี 5,000 ตารางเมตร ส่วนโซนบางนา-ตราด 10,000 ตารางเมตร

นายชูเดช ยังกล่าวถึงการขายหุ้นบิ๊กล็อต WICE ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ คือ น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารีว่า จะทำให้ WICE มีโอกาสต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีธุรกิจหลากหลาย จึงมีโอกาสในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมและมีการเติบโตมากยิ่งขึ้นด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top