AMR กำไร H1/64 พุ่ง 46.35% เดินหน้า Feeder Line-Smart City-EV Charging หนุนโต

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวด 6 เดือนแรกของปี 64 มีกำไรสุทธิ 79.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.35% เมื่อเปรียบเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/24 มีกำไรสุทธิ 49.96 ล้านบาท โดยเหตุผลที่ทำให้ผลประกอบการเติบโตขึ้นเนื่องจากการควบคุมต้นทุนงานโครงการให้บริการวางระบบรถไฟฟ้าที่ลดลง รวมถึงมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ งวด 6 เดือนแรกของปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 726.98 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากงานโครงการและให้บริการ 602.41 ล้านบาท คิดเป็น 82.87% ของรายได้รวม และรายได้จากการขาย 124.57 ล้านบาท คิดเป็น 17.13% ของรายได้รวม

“แม้จะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาการเติบโตของกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ได้ในระดับสูงกว่า 28.16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 20.33% สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการต้นทุนและการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในอนาคตจะยังคงรักษาจุดเด่นตรงนี้เอาไว้ต่อไป”

นอกเหนือจากธุรกิจเดิมที่บริษัทฯ ยื่นประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะได้งานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตไม่น้อยกว่าปีละ 2,000 ล้านบาท คาดว่าในเร็ว ๆ นี้ก็จะได้งานใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาอีก ผลักดันให้มี Backlog ในมือเพิ่มขึ้น อีกทางหนึ่ง AMR อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายการลงทุนระบบขนส่งรอง (Feeder Line) เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และสถานีชาร์จรถจักรยานยนต์ (EV Charging Station) ซึ่งเป็นธุรกิจที่อินเทรนด์กับโลกยุคปัจจุบัน และจะเป็นฐานรายได้ใหม่ที่น่าสนใจในอนาคต ซึ่งจะผลักดันรายได้และกำไรในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

แนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ายังสามารถที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างรอผลการประมูลและยื่นประมูลในหลายโปรเจค อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตตามการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาครัฐและเอกชน ซึ่งในแต่ละปีมีการเปิดประมูลหลายแสนล้านบาท เพื่อรองรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

พร้อมกันนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนจากการขายไอพีโอที่ผ่านมาราว 85% จะนำไปใช้เพื่อขยายการลงทุนธุรกิจเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนต่าง ๆ ให้เติบโตขึ้น ซึ่งในนั้นมีธุรกิจใหม่ ๆ คือ Feeder Line, Smart City, EV Charging จะเป็น New S curve ที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโต ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างโดดเด่นบนรากฐานที่แข็งแกร่ง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top