PHOL คาดรายได้ปีนี้โตตามเป้า เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารับดีมานด์กลุ่มเซฟตี้พุ่ง

นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลธัญญะ (PHOL) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทยังเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังเติบโตได้ในสถานการณ์โควิด รวมถึงลูกค้าในอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาดำเนินการ และการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อรองรับตลาดลูกค้าคอนซูมเมอร์ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยในครึ่งปีหลังอาจจะมุ่งเน้นสินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด เนื่องจากมองว่าการแพร่ระบาดยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อุปกรณ์ป้องกันยังมีความจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่อง สนับสนุนภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยปี 2564 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 10-15% จากปีก่อน

สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 624.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 518.82 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 45.19 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.23%

ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 300.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.56% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 245.47 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 18.36 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.10%

รายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักมาจากการจัดจำหน่ายสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล และสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอาหารที่ขยายตัว เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าเพื่อป้องกันเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้จากกลุ่มโรงพยาบาล หน่วยงานทางการแพทย์และสาธารณสุขเพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ในไตรมาส 2/2564 มาจากการเติบโตในกลุ่มสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ SAFETY สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 74.22% ของรายได้จากการขายและให้บริการทั้งหมด คิดเป็นรายได้ 223.29 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.31%

ด้านกลุ่มสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 24.72% คิดเป็นรายได้ 74.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.31% สำหรับธุรกิจด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค หรือ WATER มีสัดส่วนอยู่ที่ 1.06% คิดเป็นรายได้ 3.20 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แผนงานโครงการใหม่ของลูกค้าบางรายชะลอโครงการออกไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก (วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564) ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 25 สิงหาคม 2564 และจ่ายปันผลวันที่ 9 กันยายน 2564

“ผลงานในงวดไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก ปี 2564 ถือว่าดีกว่าคาดการณ์ รายได้เติบโตได้สูงกว่าเป้าหมาย จากการรุกลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังขยายตัว เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค สินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยยังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งในภาคอุตสาหกรรม การป้องกันทางการแพทย์ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน สนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้ดีตามแผนงาน”

นายบุญชัย กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top