สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นหลังมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทพีเม็กซ์ในเม็กซิโกประสบเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งส่งผลให้การผลิตน้ำมันของบริษัทดังกล่าวปรับตัวลดลง
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 67.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 71.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนคาดหวังว่า ความคืบหน้าในการอนุมัติวัคซีนของสหรัฐจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวขึ้น โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา FDA ได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนในสหรัฐ โดยจะโน้มน้าวให้ชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเชื่อว่า วัคซีนของไฟเซอร์มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19
ทางด้านนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวระบุว่า วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน น่าจะได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบจาก FDA อย่างเร็วในไม่กี่สัปดาห์นี้หรือมากสุดไม่น่าถึงเดือน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการที่จีนประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งรายงานที่ว่า เกิดเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทพีเม็กซ์ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของรัฐบาลเม็กซิโก ส่งผลให้กำลังผลิตน้ำมันของพีเม็กซ์ลดลงราว 25% และมีพนักงานเสียชีวิต 5 ราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 64)
Tags: lifestyle, WTI, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน