เงินบาทเปิด 32.68 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่ คาดกรอบวันนี้ 32.60 – 32.80

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าอยู่ที่ 32.68 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

“บาทอ่อนค่าตามตลาดโลก ตลาดมีความผันผวนมาก บิตคอยน์ร่วง ราคาทองลดลงกว่า 30 ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.60 – 32.80 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (7 ก.ย.) อยูที่ระดับ 0.33575% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.32453%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.26 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.93 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1845 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1875 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.499 บาท/ดอลลาร์
  • สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทยเผยลูกค้าระมัดระวังใช้จ่าย ยังไม่ได้รับผลบวกคลายล็อกธุรกิจ ลุ้นเปิดประเทศปลายปีฟื้นกำลังซื้อแสนล้าน
  • ธุรกิจโรงแรมยังสาหัส! “แบงก์ชาติ” แจงอัตราการเข้าพักยังดิ่ง คาด ก.ย.ลดลงต่อเนื่อง ชี้แซนด์บ็อกซ์ยังแรงไม่พอช่วยพยุง ผู้ประกอบการโอดรายได้ขาดมือทำธุรกิจระส่ำ แถมขาดสภาพคล่องหนัก หวั่นโควิด-19 ระบาดยืดเยื้อไม่จบ จ่อชะลอลงทุน-เบรกจ้างงาน-ปิดกิจการชั่วคราวเพื่อลดต้นทุน
  • คลังไร้ข้อสรุปปล่อยกู้เสริมสภาพคล่อง 7 แอร์ไลน์ 5 พันล้าน ชี้ช่องแก้พ.ร.ก.ซอฟท์โลนแบงก์ชาติ ขณะที่ “อาคม” เผยรูปแบบความช่วยเหลือธุรกิจสายการบินจะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแบงก์รัฐ ด้าน ซีอีโอสายการบินขอเงินกู้จาก 2 แหล่ง “กองทุนฟื้นฟู-กองทุนประกันสังคม” รักษาสภาพการจ้างงานพนักงานกว่า 2 หมื่นชีวิต เตรียมถกสำนักงานประกันสังคมต่อ ขอขยายวงเงินกู้
  • “สุพัฒนพงษ์” เล็งใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต.ค.นี้ หลังโควิดคลี่คลาย ครม.เพิ่มเยียวยา 16,965 ล้าน จ่ายนายจ้างลูกจ้าง ม.33 ใน 13 จังหวัด เพิ่ม 1 เดือน รวมวงเงิน เยียวยา ม.33 ทั้งหมด 3.4 หมื่นล้านบาท พร้อมอนุมัติ 4.2 พันล้าน ซื้อซิโนแวค 12 ล้านโดส นายกฯนัดถก 4 หน่วยเศรษฐกิจจับตาขยายเพดานก่อหนี้ วันนี้
  • กนอ.ดึงความเชื่อมั่นเอกชน คาดปี 67 สมาร์ทปาร์คพร้อมเดินหน้าดูดการลงทุน หนุนสร้างมูลค่า ต่อจีดีพี 5.3 หมื่นล้านบาท พร้อมยันมาบตาพุด เฟส 3 ดำเนินการตามแผน
  • ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโก ประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับสัญญาณที่ดีว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหลายรายสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะในเดือนก.ย.นี้ จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวรัสเซียส่วนใหญ่เริ่มเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ โดยจากการสอบถามจากสถานทูตไทย พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา หลังจากคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ.2558 ได้เห็นชอบในหลักการให้รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนสปุตนิก วี สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ก็เริ่มมีชาวรัสเซียยื่นขอหนังสืออนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (ซีโออี) เฉลี่ยวันละ100 รายแล้ว
  • บรรดานักลงทุนต่างมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของ ECB ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายบางรายเรียกร้องให้ ECB เริ่มปรับลดการซื้อพันธบัตร หลังจากที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัว
  • อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะยังไม่ประกาศการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันดังกล่าว แต่มีแนวโน้มที่จะประกาศการลดวงเงิน QE ในการประชุมเดือนธ.ค.
  • ราคาบิตคอยน์ร่วงลงอย่างหนักถึง 17% แตะระดับ 43,050 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ และปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเหนือระดับ 52,000 ดอลลาร์ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้เข้าซื้อบิตคอยน์จำนวน 400 เหรียญ ขณะที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศรับรองบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันพุธนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 เมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
  • นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันพุธนี้ พร้อมกับจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ด้วย ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ในการประชุมวันดังกล่าว
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึง ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top