หุ้นไทยปิดลบ 1.59 จุด แกว่งไซด์เวย์รับแรงขาย DELTA, แรงซื้อพลังงาน-Domestic พยุง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,633.76 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 86,159.97 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่ โดยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ ตามแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะ DELTA ขณะที่แรงซื้อช่วยพยุงทั้งกลุ่ม Domestic จากผู้ติดเชื้อโควิดลดลง และกลุ่มพลังงานตอบรับราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น คาดพรุ่งนี้ยังแกว่งไซด์เวย์ต่อระหว่างรอผลอประชุมเฟด รวมทั้ง FTSE Rebalancing ลดน้ำหนักหุ้นไทย พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,620 จุด แนวต้าน 1,646 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ1,633.76 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 86,159.97 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,642.63 จุด และระดับต่ำสุด 1,627.29 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 819 หลักทรัพย์ ลดลง 900 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 523 หลักทรัพย์

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวยรอปัจจัยใหม่ โดยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ ระหว่างที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำทิศทางชัดเจน โดยช่วงเช้าบรรยากาศการลงทุนดีหลังนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐต่อสายคุยกับนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ทำให้ภาพความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดช่วงต้นภาคเช้าฟื้นตัว เพราะความคาดหวังเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เพิ่มเติมจึงมีแรงขายทำกำไรออกมา

ส่วนบ้านเราวันนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง เช่นเดียวกับประเทศในอาเซียน เป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจฟื้น คาดมีเม็ดเงินนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่อง แต่ทิศทางเงินบาทอ่อนค่าก็อาจสกัดการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ และจากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงึงมีแรงเก็งกำไรหุ้น Domestic play เช่น กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มโรงแรม และมีแรงซื้อกลุ่มพลังงานที่พยุงตลาดไว้หลังราคาน้ำมันปรับขึ้นทะลุ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่มีแรงขายกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ DELTA หลังจากมีข่าวว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมรื้อเกณฑ์ Free float ออกมาคุมเข้ม

ทั้งสัปดาห์นี้คคาดว่าตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์ไปไหนไม่ไกล เพราะยังไม่มีปัจจัยที่ทำให้ทิศทางชัดเจน ก็ต้องรอการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. และวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคาดว่าจะออกมาสูง ซึ่งก่อนหน้านี้เฟดระบุว่าเงินเฟ้อช่วง 3-4 เดือนจะสูงเนื่องมาจากฐานต่ำในปีก่อน ซึ่งเดือนก.ย.63 อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ไม่ได้สูงจากเศรษฐกิจร้อนแรง ประกอบกับ มีการระบาดโควิดระลอกใหม่ในสหรัฐ เฟดก็อาจไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดวงเงิน QE

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามในวันศุกร์นี้ (17 ก.ย.) จะมี FTSE Rebalancing ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยโดยรวมออก 40 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหุ้น large cap คาดว่าจะปรับ BBL NVDR, BBL-F, KBABK NVDR, KBANK-F ออก และนำ BBL, KBANK ที่เป็น local เข้าแทน และปรับ BJC, AWC, DIF

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดก็ยังไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,620 จุด แนวต้านที่ 1,646 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,744.31 ล้านบาท ปิดที่ 652.00 บาท ลดลง 108.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 2,507.05 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 2.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,371.91 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,368.77 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,082.99 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top