เงินบาทเปิด 33.35/37 แนวโน้มอ่อนค่า ตลาดจับตาสัญญาณการลด QE จากเฟดสัปดาห์นี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.35/37 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.23 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากดอลลาร์ยังมีทิศทางแข็งค่า ซึ่งตลาดจับตาการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในระหว่างวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าน่าจะมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่องการปรับลดวงเงินใน โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ส่วนกรณีของอัตราดอกเบี้ย เชื่อว่าน่าจะเป็นไปตามเดิมที่เคยออกมาบอก ก่อนหน้านี้ คือยังไม่เร่งรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย

“ดอลลาร์คงแข็งค่าต่อ เพราะตลาดคาดว่าประชุมเฟดรอบนี้ คงจะคุยกันเรื่อง QE มากขึ้น เพราะพฤหัสที่แล้ว ตัวเลขค้าปลีก ของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด”

นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.25 – 33.45 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (17 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.32497% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.32945%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.97/110 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 109.98 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1719 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1779 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.180 บาท/ดอลลาร์

– รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ทบทวนโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างทั่วถึงว่า เนื่องจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้งานมาเป็นเวลา กว่า 3 ปีแล้ว ดังนั้นถึงเวลาที่จะต้องทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งถือเป็นการสำรวจข้อมูลประชาชน อีกครั้งด้วย โดยอยู่ระหว่างรอสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สรุปเงื่อนไขการช่วยเหลือให้ชัดเจนก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณา

– “โฆษกรัฐบาล” เผยโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3-กิน ช้อป ใช้” ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ สามารถใช้จ่ายผ่าน Delivery ได้ ช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้

– โฆษกรัฐบาลแจงนายกฯ เดินสายต่างจังหวัดถี่ยิบ เป็นภารกิจช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่เกี่ยวส่งสัญญาณยุบสภา ยันรัฐบาลอยู่ ครบวาระ

– อดีตกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และอดีตคณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิตกล่าวถึง กรณีการผิดนัด ชำระหนี้ครั้งใหญ่ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ (Evergrande) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนว่า เป็นสัญญาณสำคัญเตือนว่า เศรษฐกิจ จีนกำลังเดินหน้าซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้งในไทยเมื่อปี พ.ศ.2540-2542 หรือไม่ แต่ไม่ได้เป็นแบบวิกฤต สินเชื่อซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกาที่มี ผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกเมื่อปี พ.ศ.2551-2552

– ธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมขยายการใช้สกุลเงินหยวนในการชำระเงินข้ามพรมแดนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่ง ในความพยายามที่รัฐบาลจีนต้องการผลักดันให้เงินหยวนได้รับการยอมรับในระดับสากล

– มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัวในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย. โดยดัชนีความเชื่อ มั่นผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 71 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย. จากระดับ 70.3 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ. ค. 2554 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 72 โดยชาวอเมริกันได้ชะลอการใช้จ่าย ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

– นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะเริ่ม หารือเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE

– ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคาร กลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/64, ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่ง ชาติ (NAHB), ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)

Tags: ,
Back to Top