ทองปิดบวก $14.4 วิกฤตเอเวอร์แกรนด์หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำด้วย

  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,778.2 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40.7 เซนต์ หรือ 1.83% ปิดที่ 22.611 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 51.6 ดอลลาร์ หรือ 5.74% ปิดที่ 950.8 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 29.30 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,894.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.08% แตะที่ 93.2047 เมื่อคืนนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุดแบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปีนี้ลงเหลือ 8% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 8.3% เนื่องจากวิกฤตการณ์ของเอเวอร์แกรนด์อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะไม่ให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์ และคาดว่าเอเวอร์แกรนด์จะผิดนัดชำระหนี้การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยในวันที่ 23 ก.ย. บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ย 83.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2565 และในวันที่ 29 ก.ย.นี้ บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ย 47.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย รวมทั้งรอดูถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงาน “dot plot” ซึ่งเป็นการคาดการณ์ในอนาคตของกรรมการเฟดแต่ละคน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top