ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบตามทิศทางดาวโจนส์ วิตกบอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,050.39 จุด ร่วงลง 394.5 จุด หรือ -1.39% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,771.65 จุด ลดลง 264.72 จุด หรือ -1.10%

ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (5 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ

นักลงทุนวิตกกังวลหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.470% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) เตือนว่า ตลาดการเงินอาจได้รับผลกระทบรุนแรงหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ D ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคที่น่าจับตาในวันนี้ ได้แก่ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ย.ของเกาหลีใต้, ดุลการค้าเดือนส.ค.ของออสเตรเลีย, ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลียแบงก์ (NAB) และผลการประชุมนโยบายการเงินและการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางออสเตรเลีย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 64)

Tags:
Back to Top