ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 311.75 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ-ข้อมูลภาคบริการสดใส

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มค้าปลีก

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,314.67 จุด เพิ่มขึ้น 311.75 จุด หรือ +0.92%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,345.72 จุด เพิ่มขึ้น 45.26 จุด หรือ +1.05%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,433.83 จุด เพิ่มขึ้น 178.35 จุด หรือ +1.25%

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 1.78% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.16% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.05% หุ้นเจพีมอร์แกน บวก 1.04% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.11%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.59% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 5.21% หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2.47% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.42% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.77% หุ้นแอมะซอน บวก 0.98% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 79 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.09% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 3.08% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน เพิ่มขึ้น 1.65% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ บวก 0.36%

หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 2.06% หลังจากเฟซบุ๊ก รวมทั้งอินสตาแกรมและ WhatsApp ซึ่งเป็นบริการในเครือของเฟซบุ๊ก สามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งหลังเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและทำให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกไม่สามารถเข้าใช้งานได้เป็นเวลานานเกือบ 6 ชั่วโมง ซึ่งปัญหาระบบล่มส่งผลให้ราคาหุ้นเฟซบุ๊กปิดตลาดร่วงลงเกือบ 4.9% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

หุ้นเป๊ปซี่โค ปรับตัวขึ้น 0.59% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.79 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.73 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 61.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.0 จากระดับ 61.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่

ข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นคาร์นิวัล คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นนอร์วีเจียน ครูส ไลน์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 1.09% หุ้นวอลมาร์ท บวก 0.66% หุ้นโฮมดีโปท์ เพิ่มขึ้น 0.91% หุ้นทาร์เก็ต เพิ่มขึ้น 0.76%

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ FactSet คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top