กลุ่มรับเหมาฯบวกรับแรงเก็งกำไร โบรกฯเตือนมีความเสี่ยงน้ำมันขึ้น-เงินเฟ้อ

กลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวขึ้น 1.97% หรือเพิ่มขึ้น 1.41 จุด มาที่ 72.95 จุด เมื่อเวลา 15.43 น.

CK ปรับขึ้น 3.90% หรือ 0.80 บาท มาที่ 21.30 บาท มูลค่า 346.95 ล้านบาท

ITD ปรับขึ้น 3.48% หรือ 0.08 บาท มาที่ 2.38 บาท มูลค่า 192.23 ล้านบาท

STEC ปรับขึ้น 0.72% หรือ 0.10 บาท มาที่ 13.90 บาท มูลค่า 222.66 ล้านบาท

NWR ปรับขึ้น 2.91% หรือ 0.03 บาท มาที่ 1.06 บาท มูลค่า 81.58 ล้านบาท

UNIQ ปรับขึ้น 3.01% หรือ 0.20 บาท มาที่ 6.85 บาท มูลค่า 17.18 ล้านบาท

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มรับเหมาก่อสร้างกลับมาเวียนเล่นเก็งกำไร (Trading) กันอีกครั้ง ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไป โดยเฉพาะหุ้น บมจ.ช.การช่าง (CK) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น (STEC)

อย่างไรก็ดี มองว่ากลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีความเสี่ยง จากราคาน้ำมันปรับขึ้นมีผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในเดือน ต.ค.ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ในระยะสั้น-กลางมีโอกาสที่ค่าวัสดุก่อสร้าง ยกตัวอย่าง เช่น ปูนซีเมนต์ และเหล็กก่อสร้าง, ค่าพลังงานเชื้อเพลิงจะปรับขึ้นก่อน ส่วนค่าแรงงาน กรณีอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ก็มีโอกาสจะถูกเรียกร้องให้ปรับขึ้นได้ เมื่อภาวะเงินเฟ้อกินระยะเวลายาวนาน และมีอัตราที่สูงซึ่งก็จะท ให้สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีราคาสูงขึ้นมาก

และในไตรมาส 3/64 ผลประกอบการอาจไม่ดี เพราะมีการปิดแคมป์คนงาน ทำให้รายได้หายไป 1 เดือนแต่ค่าใช้จ่ายคงที่ก็ยังคงอยู่ และปัญหาตามมาคือหาแรงงานต่างด้าวยากมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณารายตัว ชอบ CK เพราะงานก่อสร้างน้อยตามงานในมือ (Backlog) ซึ่งยังมีไม่มากนักจึงรับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงขึ้นไม่มาก และยังมีบริษัทร่วม เช่น CKP ช่วยผลักดันกำไร สำหรับ STEC แม้มี Backlog ในมือสูงและอัตรากำไรน้อย แต่ราคาหุ้นปรับลงมากไป โดยให้ราคาเป้าหมาย CK ที่ 22 บาท แนะรออ่อนตัวค่อยเข้าซื้อ ส่วน STEC ให้เป้าหมาย 14.50 บาท

ส่วนที่แนะนำเชิงลบ เต็มมูลค่า (Fully Valued) คือ NWR, SEAFCO และ SYNTEC โดยปัจจุบันได้เผชิญกับปัจจัยลบจากเงินเฟ้อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top