ซิดนีย์กลับมาเปิดธุรกิจหลังฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสให้ปชช.ได้ตามเป้า 70%

ธุรกิจต่าง ๆ ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแก่ลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบทั้งสองโดสในวันนี้ (11 ต.ค.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 วัน หลังบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ตามเกณฑ์

ทางการซิดนีย์ได้อนุญาตให้ร้านตัดผม โรงยิม คาเฟ่ และผับบาร์เปิดรับลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบสองโดส โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปแล้ว 70% ซึ่งเมื่อนับจนถึงวันนี้ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว 73.5% และได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วกว่า 90%

ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์จะยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติมในภายหลังเมื่อประชาชนได้รับวัคซีนแตะ 80% โดยประชาชนในรัฐจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 496 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 8 ราย อย่างไรก็ดี อัตราการติดเชื้ออาจสูงขึ้นอีกหลังจากที่ชาวเมืองซิดนีย์เริ่มกลับไปทำงานและเดินทางกันมากขึ้น

ทางด้านนายโดมินิก เพอร์รอทเท็ท ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า อัตราการติดเชื้อและจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในแบบจำลองการระบาด

“นั่นคือสัญญาณบวกที่สร้างความหวังและความมั่นใจในขณะที่เราเปิดเมืองได้ตามเกณฑ์ที่วางไว้ ซึ่งสะท้อนว่าเรากำลังมาถูกทางในการสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน”

นายเพอร์รอทเท็ทกล่าว

ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังกล่าวว่า “ขณะที้ยังคงมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคอยู่ ซึ่งไม่ได้แปลว่าทุกคนจะใช้ชีวิตได้อย่างเสรี การเปิดเศรษฐกิจครั้งนี้ต้องดูตามเกณฑ์ชี้วัด หากทุกคนใส่ใจและให้ความเคารพกัน เราก็สามารถนำพาทุกคนกลับเข้าที่ทำงาน เปิดเศรษฐกิจได้โดยที่ทุกคนยังปลอดภัยอยู่”

ทั้งนี้ เมืองซิดนีย์ได้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ขณะที่เมืองเมลเบิร์นในรัฐวิกตอเรียล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.เนื่องจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ลุกลามจากซิดนีย์ไปยังเมืองเมลเบิร์น ส่วนกรุงแคนเบอร์ราประกาศล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top