จุรินทร์ เล็งชงโครงการลงทุนสำคัญในฝั่งอันดามันต่อครม.สัญจร กระบี่ 15-16 พ.ย.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ที่จังหวัดสตูล ได้มีข้อสรุปเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร วันที่ 15-16 พ.ย. 64 ที่จังหวัดกระบี่ ทั้งหมด 11 โครงการ ซึ่งในนั้นมีโครงการที่สำคัญ 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการสะพานสตูลนริศของมาเลเซีย โดยต้องการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา และจัดงบประมาณดำเนินการในเรื่องนี้ 2. โครงการศูนย์บริการด้านการแพทย์ ที่เกาะหลีเป๊ะ และ 3.โครงการหอประชุมนานาชาติ ที่จะดึงนักท่องเที่ยว และการจัดประชุมนานาชาติ หรือการประชุมในประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสตูล

“จะต้องประชุมทั้ง 6 จังหวัดอีกครั้งหนึ่ง ในฝั่งอันดามัน โดยมีจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล โดยจังหวัดสตูลประชุมจบแล้วเมื่อวาน และวันนี้จะไปประชุมที่จังหวัดตรัง ส่วนอีก 4 จังหวัด ได้มีการติดตามมาตลอดว่ามีโครงการอะไรบ้าง แต่จะสรุปอีกรอบเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจรต่อไป”

นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับประเด็นปัญหาเรื่องราคาน้ำมันแพงนั้น ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการดำเนินการไปก่อนหน้านี้ด้วยการเชิญผู้ผลิต และผู้จำหน่าย เช่น ห้างโมเดิร์นเทรดมาประชุม และขอให้ตรึงราคาสินค้าไว้ทั้งหมด โดยกระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้สินค้าใดขึ้นราคา เพราะจากการติดตามตรวจสอบต้นทุนพบว่า ถึงแม้ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น แต่ยังไม่ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งต้องดูความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการโลจิสติกส์ และผู้บริโภคด้วย

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด สำหรับเรื่องปริมาณสินค้า ได้สั่งการและประสานงานไปยังผู้ผลิตพบว่า สต็อกของห้างสรรพสินค้า หรือโมเดิร์นเทรดต่างๆ ได้มีการเตรียมการเบื้องต้นแล้ว แต่รัฐบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง จะได้เจรจากับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ต่อไปถึงทางออกที่ดีที่สุด

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การตรึงราคาน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลไว้ที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ถือเป็นสิ่งที่ทำมาในทุกรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลนี้จะเดินหน้าตามแนวทางที่ได้ดำเนินการมาต่อไป และยังให้คงน้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์ม B7 B10 และ B20 ไว้ เพื่อไม่ให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มลดลงอย่างมีนัยสำคัญจนกระทบราคาปาล์มน้ำมันของเกษตรกร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลทั้งผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ผู้ประกอบการขนส่ง ภาคธุรกิจและเกษตรกรไปในเวลาเดียวกัน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top