IVL เผย EBITDA Q3/64 โต 99%จากปีก่อนจากปริมาณผลิตเพิ่มขึ้นตามศก.ฟื้นตัว

บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เท่ากับ 478 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ 552 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสก่อนหน้า และ 240 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.73 ล้านเมตริกตัน ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ อันเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ขับเคลื่อนอุปสงค์ผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ของ IVL

เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากโรคระบาด ความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่เพิ่มขึ้นล้วนเป็นบททดสอบสำหรับห่วงโซ่อุปทาน และผลักดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้สูงขึ้น โดยผู้ผลิตดำเนินการผลิตกันอย่างเต็มกำลัง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ราคาค่าขนส่งสูงขึ้นและการขาดแคลนวัตถุดิบ

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IVL กล่าวว่า IVL มีผลประกอบการสะสมตั้งแต่ต้นปีที่มั่นคง โดย 9 เดือนแรกของปี 2564 มี EBITDA เท่ากับ 1,512 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 123% เมื่อเทียบปีต่อปี ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides & Derivative (IOD) จะเริ่มได้รับผลประโยชน์จากการกลับมาดำเนินการผลิตของแครกเกอร์ในเมือง Lake Charles (โรงงาน IVOL) ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป รวมถึงความได้เปรียบอย่างต่อเนื่องจากการใช้เชลก๊าซ

ในไตรมาสที่ 3 โครงการ Olympus ซึ่งเป็นโครงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจและต้นทุนทั่วทั้งองค์กรของบริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานคิดเป็นจำนวน 63 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำลังดำเนินงานตามแผนที่จะลดต้นทุนได้ถึง 610 ล้านเหรียญสหรัฐภายในที่ 2566 นอกจากนี้ IVL มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งด้านการกำกับดูแลกิจการ กลยุทธ์ การบริหารจัดการความเสี่ยง รวมทั้งเป้าหมายและการวัดผล อีกทั้งยังเริ่มใช้นโยบายและโครงสร้างการกำกับดูแลทางการเงินที่ครอบคลุม เพื่อเร่งปัจจัยแวดล้อมสำหรับโครงการที่กำลังขับเคลื่อนอยู่

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2564

– รายได้จากการขายรวมมูลค่า 3,867 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบปีต่อปี

– EBITDA เท่ากับ 478 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3 เทียบกับ 552 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลง 13% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้น 99% เมื่อเทียบปีต่อปี

– Reported annualized EPS เท่ากับ 4.53 บาท และ Core annualized EPS เท่ากับ 4.09 บาท

– Core ROCE เท่ากับ 12.2% ลดลง 190 basis point (bps) เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และ 747 bps เมื่อเทียบปีต่อปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top