เงินบาทเปิด 32.70 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน ตลาดรอติดตามตัวเลข GDP ไทย-กระแสเงินทุน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.82 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่าจากท้ายตลาด เช่นเดียวกับภูมิภาคที่แข็งค่าเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อคืนวันศุกร์ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ หลังตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ช่วงนี้ต้องติดตามกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าในตลาดพันธบัตร โดยเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วแผ่วลงเล็กน้อย

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.60 – 32.80 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การแถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/64 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)

THAI BAHT FIX 3M (12 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.25043% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.29416%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.89 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 114.03 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1450 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1444 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.809 บาท/ดอลลาร์
  • คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เตรียมเสนอ 33 โครงการ เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย. ที่กระบี่ ขออนุมัติงบ 1 หมื่นล้านบาท พัฒนาโครงการ พื้นฐาน ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว เสนอขอเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ คาดสร้างรายได้ปีละ 6 แสนล้านบาท
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) มูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยกับประเทศคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) จำนวน 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น มีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าสูงถึง 253,212.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.24% โดย เป็นการส่งออกมูลค่า 123,693.89 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.16% และนำเข้ามูลค่า 129,518.35 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 32.84%
  • กระทรวงการคลัง เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น ออมไปด้วยกัน วงเงิน 80,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงขอเชิญชวนประชาชนมาลงทุน เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มการออมที่มีความเสี่ยงต่ำให้ผลตอบแทนดี โดยช่องทางการจำหน่ายหลากหลาย สะดวกในการเลือกลงทุน
  • สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 หดตัวลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส และหดตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลงเพียง 0..8%
  • สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลกจะยังคงประสบภาวะขาดทุนในปี 2565 โดยมียอดขาดทุนสุทธิรวมกันอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการเดินทางยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนที่โควิด-19 จะระบาด
  • สำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า ยุโรปได้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งทำให้รัฐบาลของบางประเทศพิจารณาที่จะกำหนดมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส และทำให้เกิดการถกเถียงกันว่า การใช้วัคซีนอย่างเดียวนั้นเพียงพอที่จะยับยั้งโควิด-19 หรือไม่
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 10.44 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.46 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.63 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดิ่งลงสู่ระดับ 66.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 จากระดับ 72.8 ในเดือนก.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 64)

Tags: ,
Back to Top