ครม.เห็นชอบไทยเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงานกับจีนภายใต้ยุทธศาสตร์ Belt and Road

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านพลังงาน ภายใต้ยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง (The Belt And Road Energy Partnership: BREP) ของสำนักงานพลังงานแห่งชาติจีน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

ความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน และช่วยเหลือประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการแก้ไขปัญหาด้านการพัฒนาพลังงานในรูปแบบต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมี 30 ประเทศที่เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงาน (BREP) เช่น อัฟกานิสถาน คูเวต อิรัก ปากีสถาน เวเนซุเอลา ลาว เมียนมา เนปาล เป็นต้น พร้อมกันนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบเอกสาร 2 ฉบับเกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนด้านพลัง ดังนี้

1.ปฏิญญาร่วมการจัดตั้งความเป็น BREP (Joint Declaration on Building the BREP) เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ของประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านพลังงานร่วมกัน ภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของโลก เช่น การส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงาน การพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน

2.หลักการความร่วมมือและการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมของหุ้นส่วน ด้านพลังงาน (Cooperation Principles and Concrete Actions of the BREP) เป็นเอกสารที่แสดงถึงแนวทางการดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงานระหว่างประเทศด้านพลังงาน เช่น 1) ส่งเสริมการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน 2) ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านพลังงานร่วมกัน ซึ่งจะดำเนินการในรูปแบบการฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การส่งเสริมความสัมพันธ์กับองค์กรระหว่างประเทศด้านพลังงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทน ระบบพลังงานอัจฉริยะ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลสะอาด และการพัฒนาระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์

สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านพลังงานในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์ และสร้างโอกาสในการพัฒนาตลาดและโครงข่ายพลังงาน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่หลากหลาย สามารถเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และมีทางเลือกในการพัฒนาพลังงานโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป

น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกระทรวงพลังงานของไทย และสำนักงานพลังแห่งพลังงานแห่งชาติจีน ได้ดำเนินการความร่วมมือด้านพลังงานในกรอบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการประชุม China-Thailand Energy working Group (CTEWG) โดยในปี 2563 ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือแนวทางความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกสาขาพลังงาน ได้แก่ 1) สาขาปิโตรเลียม 2) สาขาไฟฟ้า 3) สาขาพลังงานทดแทน และ 4) สาขาพลังงานนิวเคลียร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top