OTO พุ่ง 6.09% ตอบรับร่วมทุนพัฒนาแพลตฟอร์มตรวจสอบอาชญากรรมบนบล็อกเชน

หุ้น OTO ราคาพุ่งขึ้น 6.09% มาอยู่ที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 51.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.17 น. โดยเปิดตลาดที่ 11.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 12.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11.40 บาท

บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) เปิดเผยว่า บริษัท อินโนฮับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับ บริษัท บล็อคเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งประกอบกิจการพัฒนาแพลตฟอร์ม โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนธุรกรรมการลงทุนในธุรกิจ Social Bureau เป็นไปเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทให้มีความหลากหลาย และมีฐานลูกค้าที่มากยิ่งขึ้น

ในการนี้ อินโน ฮับ จะเข้าศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงินและตรวจสอบสถานะของบล็อคเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง โดยหากผลการตรวจสอบเป็นที่พึงพอใจ อินโน ฮับ จะเจรจาเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องภายในไตรมาสแรกของปี 65

นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OTO เปิดเผยว่า อินโน ฮับ ได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับ บล็อกเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง เพื่อเข้าร่วมถือหุ้น 20% จากทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์ม Blockchain Solutions และนวัตกรรมพลิกโลกชั้นนำของเมืองไทย นำร่องในโครงการแรกด้วยโปรเจ็คต์ Social Bureau แพลตฟอร์มรายงานและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมบนบล็อกเชนแห่งแรกของโลก ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของเมืองไทยมากมาย เช่น บริษัท อีนิกเซอร์ จำกัด บริษัท อีรูไดท์ บริการวิศวกรรม จำกัด และบริษัท อะควาริโอ จำกัด

“การสยายปีกการลงทุนของ OTO ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการเดินหน้าพัฒนาเข้าสู่ธุรกิจด้านบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี่อย่างเต็มตัว สอดรับเมกะเทรนด์หรือเทรนด์ใหญ่ของโลกในด้านเทคโนโลยีที่มีผลต่อการพัฒนาคริปโตเคอเรนซี่ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายคณาวุฒิ กล่าว

พ.ต.อ.ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ กรรมการผู้จัดการ บล็อกเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง กล่าวว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตและระบบเศรษฐกิจของประชาคมโลกรวมถึงสังคมไทย กำลังถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาทดแทนเทคโนโลยีเก่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยจำเป็นต้องตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ทันการณ์ เพื่อให้เราสามารถชิงความได้เปรียบในส่วนแบ่งทางการตลาดโลกด้านการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลบนพื้นฐานของนวัตกรรมพลิกโลก แทนที่จะเป็นผู้ใช้บริการฝ่ายเดียว

โดยทางบริษัทมีโครงการจะพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลบนระบบบล็อกเชน เพื่อแนะนำบริการใหม่ๆ สู่สังคมโลกอยู่หลายโครงการ ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวแพลตฟอร์ม Social Bureau เป็นโครงการนำร่องในประมาณไตรมาสแรกของปี 65

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top