PwC แนะธุรกิจคำนึงถึง ESG-Climate Change หลังต่างชาติให้ความสำคัญในการลงทุน

นายชาญชัย ชัยประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อการประกอบธุรกิจ ว่า การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance) หรือ ESG หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ ของโลก

โดยจากการศึกษาและสำรวจของ PwC ในเรื่องของกิจการที่ดำเนินการและไม่ดำเนินการเกี่ยวกับ EGS และ Climate Change พบว่า หากบริษัท หรือกิจการไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับ ESG จะส่งผลให้มูลค่ากิจการจะลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากแนวคิดผู้บริโภคมีความชัดเจนอย่างมากว่าไม่อยากทำธุรกิจ หรือมีปฎิสัมพันธ์ทางการค้ากับกิจการที่ไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม จากนั้นจะเริ่มเป็นเทรนด์ หรือกิจการหันมาดำเนินการในเรื่องของ ESG มากขึ้น เนื่องจากได้เห็นถึงผลกระทบดังกล่าว และการดำเนินการตาม ESG ส่งผลดีต่อมูลค่ากิจการปรับตัวเพิ่มขึ้น และจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่กิจการมีนโยบายชัดเจนในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

ทั้งนี้จากข้อมูลของ เครดิต สวิส พบว่า บริษัทที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ESG มีการดำเนินงานที่ดี (Sustainability) จะมีผลกระทบต่อ Shareholder Return และมีผลต่อมูลค่าของกิจการโดยตรง มากกว่าบริษัทที่ไม่มีการเปิดเผย เนื่องจากนักลงทุนนรุ่นใหม่ นักลงทุนสถาบันได้ให้ความสำคัญต่อบริษัทที่ดำเนินกิจการที่มีความยั่งยืนมากขึ้น

ปัจจุบันประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนไทยที่อยู่ในอันดับ TOP20 จำนวน 7 บริษัท ที่ได้ประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างชัดเจน และมี 2 บริษัท ที่ได้การรับรองมาตรฐาน SBTi และมี 9 บริษัท ที่ได้มีการเปิดเผยในเรื่องของ Task Force on Climate-Related Financial Disclosure (TCFD) แล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับหลายประเทศที่มีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกัน ถือว่าบริษัทจดทะเบียนไทยทำได้ค่อนข้างดี และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยคาดหวังว่าในปีถัดๆ ไป จะมีบริษัทที่ประกาศเจตนารมณ์เป็น Net Zero

“ในปัจจุบันภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเร่ง Transformation ธุรกิจให้เป็น Net Zero มากขึ้น โดยควร Move First Move fast. Move Comprehensively และการดำเนินการตาม ESG หนีไม่พ้นเงินลงทุน บริษัทจะต้องมีงบลงทุนในส่วนนี้แยกออกมา ซึ่งจากการสำรวจนักลงทุนไม่มีความกังวลหากบริษัทจะลงทุนในเรื่องดังกล่าว” 

นายชาญชัย กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top