คลังเตรียมพร้อมของขวัญปีใหม่ 65 รอเสนอครม.-ยังอุบรีเทิร์น “ช้อปดีมีคืน”

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ได้จัดเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาต่อไป ซึ่งจะมีทั้งมาตรการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่สามารถดำเนินการได้ทันที และบางส่วนที่ต้องขอความเห็นชอบจาก ครม. ก่อน จึงขอให้รอติดตามรายละเอียดหลังจากนี้

“มาตรการของขวัญปีใหม่ในส่วนของกระทรวงการคลัง ตอนนี้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยากให้รอติดตามหลังจากเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณารับทราบ” นายกฤษฎา กล่าว

ทั้งนี้ ปฏิเสธที่จะตอบคำว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นของขวัญปีใหม่นั้น มีโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ด้วยหรือไม่ หลังจากที่ภาคเอกชนได้เรียกร้องให้กระทรวงการคลังเดินหน้าโครงการดังกล่าวอีกครั้ง

ขณะที่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการบริโภคที่สูงกว่าประมาณการ และสูงกว่าปีก่อนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ในส่วนอื่น ๆ ก็ขยายตัวได้เป็นอย่างดี ประกอบกับภาพรวมการส่งออกของไทยที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าปีนี้มูลค่าส่งออก จะขยายตัวได้ 16-17%

สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนโครงการผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ (บัตรคนจน) นั้น ขณะนี้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว อยู่ระหว่างการหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

“ไม่อยากให้คิดว่าหากมีการเปิดรับลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่แล้ว จะมีผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่อยากให้คิดว่าเราต้องช่วยกัน คนที่ไม่มีโอกาส คนที่ด้อยโอกาส ใครด้อยโอกาสก็ต้องช่วยทั้งหมด จะมากหรือจะน้อยก็ไม่เป็นไร เพราะเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้บอกไว้ชัดเจนว่า นโยบายของรัฐบาล คือ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายกฤษฎาระบุ

ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่ายังไม่มีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากเชื่อมั่นว่ามาตรการป้องกันของภาครัฐจะสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังรัฐบาลเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 64

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top