สำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานวันนี้ว่า ปริมาณการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้นในจีน อินเดีย และสหรัฐอาจเป็นปัจจัยเร่งดีมานด์การใช้ไฟฟ้าพลังงานถ่านหินแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
IEA คาดว่า การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 9% แตะที่ 10,350 เทระวัตต์-ชั่วโมงในปี 2564 โดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินพุ่งขึ้นรวดเร็วกว่าแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
รายงานของ IEA ระบุว่า ความต้องการใช้ถ่านหินโดยรวม รวมถึงในภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิตปูนซีเมนต์และเหล็กกล้านั้น คาดว่าจะโตขึ้น 6% ในปีนี้ แม้จะยังไม่ทำลายสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2556-2557 แต่ก็อาจทำนิวไฮได้ในปีหน้า
IEA ระบุว่า จีนมีปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9% ในปี 2564 ขณะที่อินเดียนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12% ในปีนี้
ที่ผ่านมานั้น จีนได้ให้คำมั่นที่จะเริ่มลดการใช้ถ่านหินลง แต่จะเริ่มได้ในปี 2568 ส่งผลให้นักพัฒนาหันไปพิจารณาทางเลือกอื่นเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในช่วง 4 ปีข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 64)
Tags: IEA, ก๊าซเรือนกระจก, จีน, ถ่านหิน, พลังงาน, วิกฤตพลังงาน, สหรัฐ, สำนักงานพลังงานสากล, อินเดีย, เศรษฐกิจโลก, ไฟฟ้า