เมืองใหญ่หลายแห่งในสหรัฐ รวมถึงนครนิวยอร์กได้ลดระดับหรือยกเลิกการจัดงานฉลองปีใหม่ติดต่อกันเป็นปีที่สอง เนื่องจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลให้อัตราการแพร่ระบาดในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด
“ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ทำให้รัฐบาลต้องกลับมาบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง สวมหน้ากากอนามัย และห้ามรวมกลุ่มขนาดใหญ่อีกครั้ง” หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานวานนี้ (28 ธ.ค.)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กิจกรรมบางส่วนในนครนิวยอร์กได้ถูกยกเลิก โดยสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ได้ยกเลิกการถ่ายทอดสดงาน “New Year’s Eve Toast & Roast 2022” ที่จัตุรัสไทม์สแควร์ โดยระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดที่รวดเร็วของไวรัสโอมิครอนส่งผลให้ไม่สามารถจัดงานถ่ายทอดสดที่ไทม์สแควร์ได้ตามมาตรฐานของทางสถานี
ส่วนงานฉลองปีใหม่ที่จัตุรัสไทม์สแควร์ในนิวยอร์กจะยังคงมีต่อไป โดยจำกัดผู้เข้าร่วมอยู่ที่ 15,000 คน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนปกติ โดยผู้เข้าร่วมงานจะต้องใส่หน้ากากอนามัยและแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว
ส่วนในรัฐแคลิฟอร์เนีย หลายเคาน์ตีในนครลอสแองเจลิสได้ยกเลิกการจัดงาน รวมถึงงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่แกรนด์พาร์ค แต่จะยังคงมีการถ่ายทอดสด ขณะที่การแสดงดอกไม้ไฟที่หอคอยสเปซนีดเดิลในเมืองซีแอตเทิลก็จะถ่ายทอดสดเช่นกัน
ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ธ.ค.) นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เรียกร้องให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่รู้ว่าใครฉีดวัคซีนไปแล้ว ซึ่งนายแพทย์เฟาชีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “เรายังมีโอกาสฉลองในอีกหลายปี แต่ไม่ใช่ปีนี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ธ.ค. 64)
Tags: COVID-19, Omicron, นิวยอร์ก, สหรัฐ, เทศกาลปีใหม่, โควิด-19, โอมิครอน