เงินบาทปิด 29.87 ต่อดอลล์ กลับมาแข็งค่าตามภูมิภาค

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 29.87 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.01 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์เพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น เช่น ทองคำ หลังสหรัฐยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 29.86 – 30.01 บาท/ดอลลาร์

“บาทแข็งค่าตามภูมิภาค โดยเริ่มทยอยแข็งค่าต่อเนื่องหลังจากเปิดตลาดช่วงเช้า เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์เพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 29.80 – 29.95 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดจับตาดูผลการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกรัฐจอร์เจียที่จะชี้ชะตาว่า พรรคเดโมแครตหรือรีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ก็จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 102.74 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 103.05 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.2291 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.2240 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,468.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.89 จุด, +1.30% มูลค่าการซื้อขาย 89,208.19 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,215.06 ล้านบาท (SET+MAI)
  • รมว.คลัง คาดว่า เศรษฐกิจในไทยปี 64 จะขยายตัวได้ราว 4% ซึ่งปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก จะมาจากกำลังซื้อภายในประเทศ ทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มปรับตัวดีขึ้นและมาช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีนี้ได้อีกแรง
  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ระหว่างเดือนม.ค.-ก.ย.63 ว่า มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวมเท่ากับ 45,609.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 76.27% แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) 42,337.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) 3,271.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ฯ 9 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 14.76%
  • บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดตัว 6 โครงการค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับธนาคารพันธมิตรช่วยเหลือเร่งด่วน จัดสรรวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 100,000 ล้านบาท ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการเปราะบาง และผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการเปราะบาง สู้ภัยโควิด-19
  • โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ได้เปิดให้ประชาชนได้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 นั้น จากข้อมูล ณ วันที่ 3 ม.ค.64 มีผู้ใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่ง และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 แล้ว 12,050,115 คน โดยเป็นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้ได้รับสิทธิเดิม 9,536,644 คน ใช้จ่ายสะสม 52,358.3 ล้านบาท และผู้ได้รับสิทธิใหม่จำนวน 2,513,471 คน ใช้จ่ายสะสม 1,073.6 ล้านบาท รวมยอดการใช้จ่ายสะสม 53,431.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 27,353.4 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 26,078.5 ล้านบาท
  • รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในบางส่วนของสหราชอาณาจักร และรัฐบาลยังไม่ปัดความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะเพิ่มมาตรการเพื่อพยายามและควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงการล็อกดาวน์ทั่วประเทศด้วย
  • รัฐบาลอังกฤษอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการของสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขภาคบริการ และการจ้างงาน รวมถึงบันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) นอกจากนี้นักลงทุนจะจับตาการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจียซึ่งจะบ่งชี้ว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยจะมีผลต่อมาตรการกระตุ้นทางการการคลังเพิ่มเติมในระยะถัดไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top